สั่งให้ออกจากราชการ พ.ต.ท. ถูกออกหมายจับเอี่ยวแก๊งคอลเซนเตอร์

สั่งให้ออกจากราชการ พ.ต.ท. ถูกออกหมายจับเอี่ยวแก๊งคอลเซนเตอร์

View icon 792
วันที่ 28 ต.ค. 2568 | 12.47 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตำรวจเป็นเสียเอง ผบช.น. สั่งให้ออกจากราชการ ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง นายตำรวจยศ พ.ต.ท. ตำแหน่งรอง ผกก.(สอบสวน) สน.ดอนเมือง ถูกออกหมายจับเอี่ยวแก๊งคอลเซนเตอร์ หลอกลงทุนเทรดหุ้นออนไลน์

วันนี้ (28 ต.ค. 68) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ผ่านมา ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พร้อม พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.2 ได้สั่งการให้ทาง บก.น.2 ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และให้ออกจากราชการนายตำรวจสังกัด บก.น.2 จำนวน 1 นาย ยศ พันตำรวจโท (พ.ต.ท.) ตำแหน่ง รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ดอนเมือง ภายหลังจากพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท. ขออนุมัติหมายจับศาลอาญา กระทั่งศาลอาญาอนุมัติออหมายจับ ที่ 5865/2568 ลงวันที่ 6 ต.ค. 68 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, สมคบโดยการตกลงตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน, ร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันเป็นอั้งยี่” และให้จับกุมตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 68 ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากช่วงปลายเดือน พ.ค. 68 ผู้เสียหายพบเห็นโฆษณาบนเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการชักชวนลงทุนเทรดหุ้นออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์มชื่อ "FINNIXMAX" โดยในระยะแรกสามารถเบิกถอนเงินได้ตามปกติ ต่อมาเมื่อผู้เสียหายลงทุนเพิ่มมากขึ้นและต้องการถอนเงิน แต่ไม่สามารถถอนเงินออกจากระบบได้ จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 1.2 ล้านบาท ตำรวจได้ทำการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด จำนวน 24 คน จับกุมผู้ต้องหาในคดีได้จำนวน 16 คน และอายัดตัวผู้ต้องหาในเรือนจำ 1 คน

นอกจากนี้ได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผล พร้อมตรวจยึดของกลางและทรัพย์สินต่าง ๆ ประกอบด้วย รถยนต์ 9 คัน, กระเป๋าและเครื่องประดับแบรนด์เนม 48 รายการ, เงินสดหลายสกุลมูลค่ารวม 295,920 บาท, โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 23 รายการ, สมุดบัญชีธนาคาร/บัตร ATM 92 รายการ รวมมูลค่าสิ่งของตรวจยึดกว่า 21 ล้านบาท พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับบุคคลที่มีส่วนร่วมในขบวนการเพิ่มเติมอีกจำนวน 5 คน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอท. พร้อมด้วย กก.1 บก.ปอท. บูรณาการกำลังร่วมกันตรวจค้นเป้าหมาย 6 จุด ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร และอุดรธานี วันที่ 7 ต.ค.68 ที่ผ่านมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง