อัปเดตอาการลูกช้างข้าวต้ม มีภาวะโลหิตจาง ยังกินนมได้น้อย หมอป้อนน้ำข้าวต้มเพื่อเพิ่มพลังงาน ให้น้ำ/น้ำตาลทางหลอดเลือดดำ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำและพยุงระดับน้ำตาล
วันนี้ (28 ส.ค.68) กัญจนา ศิลปอาชา อัปเดตอาการของลูกช้างข้าวต้ม ตามที่ได้รับแจ้งจากทีมสัตวแพทย์ที่ดูแลลูกช้าง ตลอด 24 ชั่วโมง โดยวานนี้ (27 ต.ค. 68) ลูกช้างป่าข้าวต้ม ยังกินนมได้น้อย แต่กินนมได้มากขึ้นจากวันก่อน ๆ ทีมสัตวแพทย์ช่วยป้อนน้ำข้าวต้มเสริม เพื่อเพิ่มพลังงานและกระตุ้นการกินนม ส่วนปัสสาวะของลูกช้างสีใส อุจจาระเหลว สีเหลือง สัตวแพทย์ให้จุลินทรีย์ชนิดดีเพื่อปรับสภาพลำไส้
ทีมสัตวแพทยืได้ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด มีค่าต่ำกว่าปกติ ในเวลา 14.30 น. ทีมสัตวแพทย์ได้ทำการแก้ไขจนกลับคืนสู่ภาวะปกติ นอกจากนี้ สัตวแพทย์ ให้สารน้ำ/น้ำตาลทางหลอดเลือดดำ ตลอดทั้งวัน เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ และพยุงระดับน้ำตาลในเลือด
ส่วนแผลในช่องปากของลูกช้างข้าวต้มดีขึ้น แผลบริเวณสะดือแห้งดี แผลอวัยวะเพศแห้งดี แผลถลอกรอบฟื้นตัวดี ทีมสัตวแพทย์ทำการรักษาแผลต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ลูกช้างป่า มีกำลังในการถีบตัวลุกขึ้นยืน โดยมีสัตวแพทย์และคณะเจ้าหน้าที่ฯ ช่วยพยุงตัว และมีการทำกายภาพบำบัดด้วยการจับข้อเท้ายืดเหยียด ใช้เครื่องอัลตราซาวน์บำบัด และใส่เฝือกเข้ารูประหว่างวันสลับกับการพักขา
สัตวแพทย์ทำการเก็บตัวอย่างเลือดส่งตรวจ เพื่อติดตามค่าทางโลหิตวิทยา จากผลตรวจพบว่า ลูกช้างมีภาวะโลหิตจาง ภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำกว่าปกติ ค่าไตอยู่ในระดับปกติ ค่าตับต่ำกว่าปกติ ระดับโปรตีนในเลือดต่ำกว่าปกติ ค่าบ่งชี้การสลายของกล้ามเนื้อ อยู่ในระดับปกติ
สำหรับทีมสัตวแพทย์ที่ร่วมดูแลลูกช้างข้าวต้ม ประกอบด้วย สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก สพ.ญ. กานต์พิชชา หาญอาษา นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) น.สพ. นภัส เสวกวรรณ นายสัตวแพทย์ กลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า
