เช้านี้ที่หมอชิต - เกาะติดประเด็นการลดความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเมื่อวาน (28 ต.ค.) "นายกฯ อนุทิน" และ "นายกฯ ฮุน มาเนต" ได้หารือทวิภาคีระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่ง ไทย เน้นย้ำ 4 ประเด็นหลักที่ได้ตกลงร่วมกัน ทั้งการถอนอาวุธหนัก การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การปราบปรามสแกมเมอร์ และ การบริหารจัดการพื้นที่ชายแดน
"นายกฯ อนุทิน" ยืนยันว่า กระบวนการถอนอาวุธหนักได้เริ่มขึ้นแล้ว แต่สิ่งที่ไทยต้องการเห็น คือ การถอนอาวุธหนักอย่างจริงจังและต่อเนื่อง รวมถึงต้องเพิ่มความเข้มข้นในการประสานงานปราบอาชญากรรมข้ามชาติ การเก็บกู้ทุ่นระเบิด และเรื่องบริหารจัดการพื้นที่ชายแดน
ด้าน พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์เมื่อวานว่า ต้องการให้กัมพูชาถอนเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง "BM-21" ซึ่งตามแผนที่มีการพูดคุยเบื้องต้น คือ 2 ประเทศ ได้กำหนดกรอบเวลา 1 เดือนครึ่ง หรือ 6 สัปดาห์ เพื่อดำเนินการถอนอาวุธทั้งหมด
ซึ่งล่าสุดในระดับพื้นที่ มีการหารือระหว่าง "แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย" และ "ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชา" กำหนดแผนถอนอาวุธ แบ่งเป็น 3 ระยะ 3 ประเภทอาวุธ คือ 1.จรวด 2.ปืนใหญ่ 3.ยานเกราะและรถถัง ซึ่งทั้ง 2 ฝ่าย เห็นชอบให้ดำเนินการภายใน 3 สัปดาห์
และเมื่อคืนที่ผ่านมา ไทยได้เคลื่อนย้ายรถถัง 2 คัน กลับที่ตั้งในจังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนเข้าตรวจสอบ
ส่วนประเด็นดรามาของ "นายกฯ อนุทิน" ที่ให้สัมภาษณ์ประเด็นไทย-กัมพูชา โดยช่วงหนึ่ง "นายกฯ อนุทิน" ระบุว่า "ส่วนของกัมพูชาที่ล้ำมาฝั่งไทยก็มี และส่วนของฝั่งไทยที่ล้ำไปฝั่งกัมพูชาก็มีเช่นกัน หากจะแฟร์ก็ต้องแฟร์ทั้งสองฝ่าย และถ้าตกลงได้แล้ว เราก็ต้องกลับมา" ทำให้ถูกทัวร์ลงหนัก เพราะหลายฝ่ายเกรงว่าอีกฝ่ายจะนำข้อความนี้ไปขยายผล
เมื่อวาน (28 ต.ค.) "นายกฯ อนุทิน ได้ชี้แจงกรณีดังกล่าวแล้ว 2 รอบ โดยรอบแรกชี้แจงที่มาเลเซียว่า ในประโยคดังกล่าวตกคำว่า "พื้นที่อ้างสิทธิ์" ไป ทำให้เกิดความสับสน และยืนยันว่า ไทยไม่ได้รุกล้ำพื้นที่กัมพูชา
นอกจากนี้ หลังจากที่ "นายกฯ อนุทิน" เดินทางกลับมาถึงไทย ก็ได้ให้สัมภาษณ์อีกครั้ง โดยครั้งนี้ได้ขอโทษประชาชนที่ทำให้เกิดความสับสน