สปสช. โอนเงินให้หลักร้อย รพ.สุราษฎร์ธานี ก็โดนด้วย

สปสช. โอนเงินให้หลักร้อย รพ.สุราษฎร์ธานี ก็โดนด้วย

View icon 1.3K
วันที่ 29 ต.ค. 2568 | 10.41 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ใช้หนี้หลักร้อย ไม่ใช่แค่ รพ.มงกุฎวัฒนะ รพ.สุราษฎร์ธานี ก็ด้วย สปสช. โอนให้ 161.33 บาท หมอเหรียญทองขอให้ รพ. ให้บริการสิทธิบัตรทองออกมาบอกความจริง หวั่นส่งผลต่อการล่มสลายของระบบสาธารณสุข

ความเคลื่อนไหวหลัง สปสช. ชำระหนี้ให้ รพ.มงกุฎวัฒนะ 122.80 บาท วานนี้ (28 ต.ค.68) เพจเฟซบุ๊กโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ก็แจ้งให้ทราบถึงวิกฤตการเงินของแท้มาเยือน โดนหักเงินย้อนหลัง 52 ล้านบาท  ทั้งที่ข้อเสนอหลังมีประชุมหารือระหว่าง สปสช. กับชมรม รพศ.รพท. เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 68 ว่าจะไม่หักย้อนหลัง ไม่มี 3% extrapolation ทาง สปสช.จะพยายามหาเงินมาช่วยเหลือ รพ. สุดท้ายไม่ได้พยายามทำตามข้อเสนอของชมรม ผลคือ รพ. สุราษฎร์ธานี ได้รับเงิน 161.33บาท

69018e3cc9df02.37833806.jpg

“161.33 บาท สำหรับโรงพยาบาลศูนย์จากกองทุน UC แล้วใครจะได้รับผลกระทบเมื่อ รพ.ไม่มีเงินจ่ายค่ายา ค่าวัสดุการแพทย์ ค่าlab ค่าใช้จ่าย รพ.170 ล้านต่อเดือน”

วันนี้ (29 ต.ค.68) พล.ต. นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ใช้พื้นที่เฟซบุ๊กชี้แจงเพิ่มเติม โดยขอให้แชร์ข้อความไปถึง รพ. ทั้งรัฐและเอกชน ที่เป็นหน่วยบริการในระบบบัตรทอง ทั้งกรุงเทพฯและส่วนภูมิภาคว่า รพ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็น รพ.ศูนย์ในระดับตติยภูมิขั้นสูงของภาคใต้ตอนบน และ รพ.มงกุฎวัฒนะที่ถูก สปสช. RERUN หักเงินจากการออดิต (AUDIT) หรือตรวจสอบด้วยการสุ่มตรวจแฟ้มเวชระเบียน 3% แล้วใช้เหมารวมว่าการตรวจรักษาผู้ป่วยทั้งหมด 100% นั้นผิด ต้องถูกเรียกเงินคืนย้อนหลัง

ทำให้งวดค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยที่จ่ายให้แก่ รพ.หรือหน่วยบริการในสิ้นเดือน ต.ค.68 เมื่อวันที่ 27 ต.ค.68 ที่ผ่านมาเหลือเพียงแค่ “เงินขวัญถุง” แต่ไม่พอ “ค่าขวัญเสีย”
1. รพ.สุราษฎร์ธานี ถูกหักเงินจากหลายสิบล้านบาทเหลือแค่ 161.33 บาท
2. รพ.มงกุฎวัฒนะ ถูกหักเงินจากหลายสิบล้านบาทเหลือแค่ 122.80 บาท

ทั้งนี้ขอให้ รพ.ทั้งรัฐ และเอกชนในระบบบัตรทอง โพสต์ให้สาธารณะทราบว่า รพ.ของท่านได้รับเงินในงวดสิ้นเดือน ต.ค.68 เมื่อวันที่ 27 ต.ค.68 ที่ผ่านมา รพ. ถูกหักแล้ว เหลือเงินกี่บาท เพื่อให้ประชาชนรู้ความจริงว่า ขณะนี้เกิดวิกฤตขาดสภาพคล่องทางการเงิน'ใน รพ.ที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าแล้ว

หากปล่อย วิกฤตขาดสภาพคล่องทางการเงิน เป็นเช่นนี้ต่อไป คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยสิทธิบัตรทองจะถดถอยด้อยคุณภาพการรักษาลง อันเนื่องจากการที่ รพ. และหน่วยบริการขาดกระแสเงินสดในการหมุนเวียนการปฏิบัติงาน เช่น การจ้างบุคลากร-จัดซื้อยาเวชภัณฑ์-ฯลฯ

ดังนั้นจึงขอให้ทุก รพ.ร่วมมือกัน อย่าปกปิดปัญหาให้อยู่กับ รพ.ของท่านหรือเพียงแค่บุคลากรใน รพ.สังกัดท่านเท่านั้น เพราะวิกฤตขาดสภาพคล่องทางการเงินใน รพ.จะส่งผลต่อการล่มสลายของระบบสาธารณสุข ได้หากทุก รพ. หมายรวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ทุกนาย ยังรักระบบสาธารณสุขจริง ยังรักระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าจริง ท่านต้องตีแผ่ความจริงว่า สปสช บริหารงานกองทุนหลักประกันสุขภาพฯ ล้มเหลวแล้ว

หมอเหรียญทอง ยังได้อธิบายถึงยอดเงินค้างชำระของ สปสช. ดังนี้

1. งวดเดือน ต.ค.68 ที่ สปสช. จะต้องจ่าย รพ.มงกุฎวัฒนะ มียอดค่ารักษาทั้งสิ้นรวม 38 ล้านบาท
2. เมื่อเดือน พ.ย.67 รพ.มงกุฎวัฒนะขาดกระแสเงินสด จึงขอให้ สปสช. ชำระหนี้ปี 67 จำนวน 60 ล้านบาท เพื่อให้ได้เงินสดมาหมุนเวียนแก้ปัญหาสภาพคล่องในปี 68 แต่ สปสช ไม่ยอมชำระหนี้ปี 67 แต่ สปสช. ให้ รพ.มงกุฎวัฒนะยืมเงิน 60 ล้านบาทแทน ซึ่ง รพ.มงกุฎวัฒนะมีความจำเป็นต้องการเงินสดในขณะนั้นจึงต้องขอรับเงินยืมไปพลางก่อน

ดังนั้น รพ.มงกุฎวัฒนะจึงกลายเป็นลูกหนี้ สปสช. 60 ล้านบาท (ทั้งๆที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ เป็นเจ้าหนี้ 60 ล้านบาท แต่ สปสช. ไม่ยอมชำระหนี้)  เมื่อ รพ.มงกุฎวัฒนะกลายเป็นลูกหนี้ สปสช. 60 ล้านบาทแล้ว สปสช. จึงหักเงิน รพ.มงกุฎวัฒนะทุกเดือน ๆ ละ 5 ล้านบาท ดังนั้นในเดือน ต.ค.68 รพ.มงกุฎวัฒนะ จึงถูกหักเงินยืมระหว่างเดือน ก.ค.-ก.ย.68 ที่เหลืออยู่ 3 เดือนเป็นเงิน 15 ล้านบาท

นอกจากนี้ สปสช. ยังตรวจแฟ้มประวัติผู้ป่วยหรือเวชระเบียนจำนวน 3% แล้วนำข้อผิดพลาดจากแฟ้มจำนวน 3% ไปเป็นตัวแทนแฟ้มผู้ป่วยทั้งหมด 100% นำไปปรับลดย้อนหลังค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดในปี 68 คิดเป็นเงินที่ สปสช. เรียกคืนจาก รพ.มงกุฎวัฒนะ 23 ล้านบาทเศษ

ดังนั้น เดือน ต.ค.68 ค่ารักษาที่ สปสช. จะต้องจ่าย รพ.มงกุฎวัฒนะ ที่มียอดรวม 38 ล้านบาท เมื่อหักเงินยืม จำนวน 15 ล้านบาท และหักเงินเรียกคืนจากการตรวจจับผิดแฟ้มผู้ป่วย อีก 23 ล้านบาทแล้ว จึงเหลือเงินที่ สปสช. โอนให้ รพ.มงกุฎวัฒนะทั้งสิ้น 122.80 บาท

หมอเหรียญทอง ระบุด้วยว่า ขณะนี้มี รพ.จำนวนมากหลายร้อยแห่งทั่วประเทศ ยังติดลบ ไม่มีเงินให้ สปสช. หัก นอกจาก รพ. เหล่านั้นไม่ได้สักสตางค์แดงเดียว แถมเดือนหน้า พ.ย. 68 รพ. ทั้งหลายยังต้องถูก สปสช. เรียกคืนอีกหลายสิบล้านบาทอีกด้วย วันนี้ รพ.มงกุฎวัฒนะ จึงต้องงดตรวจผู้ป่วยบัตรทองต่อไปจนกว่า สปสช. จะจ่ายหนี้ค้างปีงบประมาณ 63 และปีงบประมาณ 67 ให้เรียบร้อยเสียก่อน