ห้องข่าวภาคเที่ยง - คนร้ายที่ก่อเหตุวิ่งราวสร้องคอทองคำ 5 เส้น น้ำหนัก 5 บาท จากร้านทองใน จังหวัดระยอง เมื่อวานนี้ เข้ามอบตัวกับตำรวจแล้ว รับสารภาพศึกษาข้อกฎหมายก่อนก่อเหตุ ไปดูภาพวงจรปิดตอนก่อเหตุ
โจรศึกษาข้อกฎหมาย ก่อนวิ่งราวทอง
เป็นภาพขณะที่คนร้ายรายนี้ทำทีเข้าไปเลือกซื้อทอง ร้านทองแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ชุมชนบ้านโขดหิน-เขาไผ่ ตำบลเนินพระ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง โดยเจ้าของร้านนำสร้อยคอทองคำ ออกมาให้เลือก 5 เส้น น้ำหนักเส้นละ 1 บาท
คนร้ายอ้างว่าจะซื้อไปให้ภรรยา โดยขอโทรศัพท์สอบถามภรรยาก่อน เจ้าของร้านจึงหันไปทางอื่น คนร้ายอาศัยจังหวะนี้หยิบสร้อยคอทองคำในถาดทั้งหมด แล้ววิ่งออกจากร้านไป
ช่วงเย็นวานนี้ นายเจริญ อายุ 31 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุ เข้ามอบตัวกับตำรวจ รับว่า เป็นพนักงานบริษัทไฟแนนซ์แห่งหนึ่งใน จังหวัดระยอง ก่อเหตุโดยใช้รถจักรยานยนต์ที่ไปยึดมาจากลูกค้า หลังก่อเหตุขับรถกระบะของบริษัทไฟแนนซ์ ไปกรุงเทพฯ ระหว่างทางก็นำสร้อยคอทองคำ 2 เส้น ไปขายที่ร้านทอง 2 แห่ง กระทั่งแม่โทรมาคุย และรู้ว่าไปก่อเหตุวิ่งราวทอง จึงเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว
เช้าวันนี้ตำรวจควบคุมตัวนายเจริญ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ โดยตำรวจบอกว่า จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหารับว่า ก่อเหตุเพราะเป็นหนี้นอกระบบ และเป็นหนี้พนัน ก่อนก่อเหตุได้ศึกษาข้อกฎหมายมาเป็นอย่างดี เลือกที่จะไม่ใช้อาวุธก่อเหตุ เพราะโทษจะมีความหนักเบาต่างกัน โดยโทษวิ่งราวทรัพย์ จะจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท แต่หากใช้อาวุธจี้ชิงทรัพย์ โทษจะสูงขึ้น เป็นจำคุก ตั้งแต่ 5-10 ปี ปรับตั้งแต่ 100,000 - 200,000 บาท
หนีไม่รอด โจรชิงสมาร์ตวอตช์
ส่วนอีกรายตำรวจตามรวบทันควัน นายเหินฟ้า อายุ 32 ปี หลังก่อเหตุเข้าไปล็อกคอชิงทรัพย์หญิงสาว อายุ 40 ปี ขณะกำลังเดินกลับหอพัก ย่านมาบตาพุด จังหวัดระยอง ทรัพย์สินที่อยู่ในกระเป๋าที่คนร้ายได้ไปเป็น โทรศัพท์มือถือ ลอตเตอรี่ 1 คู่ และนาฬิกา สมาร์ตวอตช์ แต่ตำรวจใช้เวลาตามหาตัวแค่ 2 ชั่วโมง ก่อนไปจับกุมตัวที่ห้องเช่าใน ซอยวัดตรี ตำบลท่าประดู่ อำเภอเมืองระยอง
ส่วนที่จับได้เร็ว เป็นเพราะนาฬิกาสมาร์ตวอตช์ ซึ่งติดตามตำแหน่งได้โดยใช้ GPS ทรัพย์สินยังอยู่ครบ เจ้าตัวรับสารภาพไม่ได้ตั้งใจก่อเหตุ พอตรวจปัสสาวะพบว่าเป็นสีม่วง ตำรวจเลยแจ้งหลายข้อหา คือ เสพยาเสพติด บุกรุกเคหะสถาน และชิงทรัพย์