ลุงวัย 64 ปี เขย่าประตูจะบุกเข้าร้านเสริมสวยทำ ช่างสาวผวา อ้างจะเข้าไปย้อมผม ทางร้านบอกว่าไม่รับทำผมผู้ชาย แต่ลุงก็ไม่ยอมไปไหนนั่งอยู่หน้าร้าน จนสุดท้ายตำรวจมาพาตัวไปโรงพัก ลุงอ้างที่ใส่เสื้อแมนฯ ยูฯ เพราะเคยไปอังกฤษมาแล้ว แมนฯ ยูฯ อยู่ที่ลอนดอน ตนก็เคยไปมาแล้ว ตนเรียนจบปริญญาเอกที่ปากีสถาน อยากให้ตำรวจไปส่งที่ขอนแก่น
วันนี้ (30 ต.ค. 68) ร.ต.อ.ถิรโยธิน ทรัพย์สิน รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีชายสูงอายุ พูดจาไม่รู้เรื่อง พยายามจะบุกเข้ามาในร้านเสริมสวยแห่งหนึ่ง บนถนนศรีชมชื่น เทศบาลนครอุดรธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยสายตรวจ 191
ณ ที่เกิดเหตุพบชายสวมเสื้อฟุตบอลทีม แมนฯ ยูไนเต็ด กางเกงขาสั้นสีดำ สวมรองเท้าผ้าใบสีขา นั่งอยู่บนเกาอี้ปูนหน้าร้านเสริมสวย พูดจาวกไปวนมา และสื่อสารไม่รู้เรื่อง จากการตรวจค้นตัวพบเพียงบัตรประจำตัวประชาชน ทราบชื่อคือ นายซูซานคิม อายุ 64 ปี และพบ นางวนิชา อายุ 49 ปี เจ้าของร้านเสริมสวย ยืนตกใจตัวสั่นอยู่หน้าร้านเสริมสวย
จากการสอบ นายซูซานคิม ให้การด้วยความสับสนว่า ตนมาจากขอนแก่น นั่งรถมาที่อุดรฯ ต้องการจะเข้าไปย้อมผมที่ร้านเสริมสวยเท่านั้น และที่ใส่เสื้อแมนฯ ยูฯ เพราะเคยไปที่อังกฤษมาแล้ว แมนฯ ยูฯ อยู่ที่ลอนดอน ตนก็เคยไปมาแล้ว ตนเรียนจบปริญญาเอกที่ประเทศปากีสถาน และตนไปเรียน ป.เอก ที่นอร์ทสะพานใหม่ และอาจารย์ก็จบ ป.เอก จากสหรัฐฯ มีพ็อกเก็ตมันนี่ 1 ล้านบาท และตนถือคติว่า “เอารถไฟเป็นบ้าน เอาร้านอาหารเป็นครัว เอาหญิงใจชั่ว ๆ เป็นเมีย เอาอาเสี่ยเป็นมิตร” ตอนนี้อยากให้ตำรวจไปส่งที่ขอนแก่น ถ้าไปส่งแค่ที่ บขส. ก็จะวนกลับไปที่เดิม
ด้าน นางวนิชา เล่าว่า ตนกำลังนั่งดูซีรีส์อยู่ในร้านเสริมสวย และได้เปิดประตูกระจกหน้าร้านเอาไว้ แต่ก็ล็อกประตูลูกกรงอีกชั้น สักพักลุงคนดังกล่าวเดินมาเคาะประตู ตนจึงมองและถามว่ามาทำอะไร จากนั้นเขาก็เขย่าประตูและบอกว่าจะเข้ามาทำผม ตนตอบกลับไปว่าไม่ได้รับทำผมผู้ชาย ลุงก็บอกว่าจะย้อมผม แต่ตนก็บอกว่าไม่ย้อม แล้วเขาก็บอกจะนั่งรอก่อน ตนบอกลุงไปว่าให้ไปตัดผมที่ร้านตัดผมผู้ชายฝั่งตรงข้าม ลุงบอกว่าไม่มีแรงให้ไปเรียกให้หน่อย หลังจากนั้นตนก็รีบวิ่งไปเรียกช่างตัดผมชายให้ลุง ช่างผู้ชายก็เตรียมมาตัดผม แต่ตนก็บอกไปว่าตนไม่รู้จักลุงคนนี้ ทางช่างตัดผมชายก็บอกว่างั้นไม่น่าจบแค่ที่ผมแน่นอนและเดินกลับร้านไป ทีนี้ลุงคนนี้ก็ไม่ยอมเดินไปไหนเลย ตนรู้สึกกลัวและตกใจมาก
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก แต่ นายซูซานคิม ก็ยังให้การไม่รู้เรื่อง ถามว่าจะให้ไปส่งที่ไหน มีญาติหรือไม่ ก็ตอบไม่ได้ บอกเพียงว่าให้ไปส่งที่ จ.ขอนแก่น ตำรวจจึงบอกว่าไปส่งที่ บขส. แต่ลุงก็ไม่ยอม จึงตัดสินใจนำตัวไปฉีดยาทำการรักษาที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี หลังจากนั้นจะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ตามบัตรประชาชน เพื่อติดต่อตามหาญาติอีกครั้ง เพื่อให้มารับตัวนำไปรักษาตามขั้นตอนต่อไป
