การหารือทวิภาคีนอกรอบการประชุมเอเปก ระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน “เป็นไปด้วยดี” ซึ่งบรรลุข้อตกลงการค้าร่วมกันในหลายประเด็นสำคัญ นอกจากนี้ผู้นำจีนยังกล่าวยกย่อง “ทรัมป์” ว่าให้ความสำคัญกับสันติภาพของโลก
วันนี้ (30 ต.ค. 68) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การหารือทวิภาคีนอกรอบการประชุมเอเปก (APEC) ที่เกาหลีใต้ ระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน เป็นไปได้ด้วยดี ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงทางการค้าในหลายประเด็น
โดยสหรัฐฯ จะลดภาษีนำเข้า 20% ซึ่งเป็นบทลงโทษกรณีที่จีนปล่อยให้มีการลักลอบนำเข้าเฟนทานิลไปยังสหรัฐฯ เหลือ 10% และไม่จำกัดการส่งออกซอฟต์แวร์ไปจีน
ขณะที่ ทางการจีนจะซื้อถั่วเหลืองและสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ มากขึ้น รวมทั้งยังเลื่อนมาตรการจำกัดการส่งออกแร่ธาตุหายาก หรือ "แรร์เอิร์ธ" ออกไปอีก 1 ปี โดยทั้งสองฝ่ายมุ่งมั่นที่จะกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นต่อไป
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยังกล่าวยกย่อง “โดนัลด์ ทรัมป์” ด้วยว่า ให้ความสำคัญกับสันติภาพของโลกและมีความกระตือรือร้นในการแก้ไขข้อพิพาททั่วทุกภูมิภาค ซึ่งต้องขอขอบคุณที่ทำให้ให้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา
นอกจากนี้ ผู้นำจีนยังกล่าวถึงการเยือนมาเลเซีย โดยระบุว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนาม "แถลงการณ์ร่วม" เพื่อสันติภาพชายแดน ไทย-กัมพูชา ซึ่งจีนก็ได้ช่วยไทยและกัมพูชาให้ยุติข้อพิพาทชายแดนเช่นกันด้วยวิถีทางของตนเอง ขณะที่ ปัจจุบันโลกกำลังเผชิญกับปัญหาที่ยากลำบากมากมาย จีนและสหรัฐฯ สามารถร่วมกันแบกรับความรับผิดชอบในฐานะประเทศใหญ่ และทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุสิ่งที่ยิ่งใหญ่และเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้นเพื่อประโยชน์ของโลกและทั้งสองประเทศ