วันนี้ (31 ต.ค. 68) อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา เผยข่าวดีหลังพบเต่าตนุ ขึ้นวางไข่เป็นรังที่สองของฤดูกาลนี้ เมื่อวันที่ (30 ต.ค. 68) บริเวณหาดเล็ก เกาะสี่ นับเป็นสัญญาณที่ดีของความสำเร็จในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศทางทะเลอย่างยั่งยืน
นายศิริวัฒน์ สืบสาย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันได้ตรวจพบร่องรอยเต่าตนุขึ้นวางไข่บริเวณหาดเล็ก เกาะสี่ เมื่อวันที่ (30 ต.ค. 68) โดยแม่เต่ามีขนาดกระดองกว้างประมาณ 50 เซนติเมตร วางไข่จำนวน 82 ฟอง คาดว่าจะใช้เวลาฟักไข่ประมาณ 55-60 วัน หรือลูกเต่าจะฟักออกในช่วงปลายเดือนธันวาคม 2568 ถึงต้นเดือนมกราคม 2569
เจ้าหน้าที่ได้ตั้งชื่อแม่เต่าตัวนี้ว่า "แม่สายรุ้ง" เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความงดงามและความหวังของผืนทะเลไทย โดยสายรุ้งหมายถึงความหลากหลายทางชีวภาพที่อุดมสมบูรณ์ของทะเลไทย และเป็นสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นใหม่ที่เชื่อมโยงระหว่างธรรมชาติและมนุษย์
โดยรังนี้เป็นรังที่สองของฤดูกาลนี้ ต่อจาก "แม่สายฝน" ที่ขึ้นวางไข่เมื่อวันที่ (20 ต.ค. 68) ห่างกันเพียง 10 วัน แสดงให้เห็นถึงความต่อเนื่องและความเหมาะสมของแหล่งที่อยู่อาศัยสำหรับเต่าทะเลที่หมู่เกาะสิมิลัน
นายสุรศักดิ์ กล่าวเสริมว่า "การที่เต่าทะเลเลือกขึ้นวางไข่ที่หมู่เกาะสิมิลันอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่า พื้นที่แห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์และเหมาะสมเป็นแหล่งสืบพันธุ์ที่สำคัญของเต่าทะเล ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครองตามกฎหมาย กรมอุทยานฯ มีความมุ่งมั่นที่จะดูแลรักษาทรัพยากรทางทะเลเหล่านี้ไว้ให้กับคนรุ่นต่อไป"
เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันได้ดำเนินการดูแลและคุ้มครองรังไข่อย่างเข้มงวด ดังนี้
1. ติดตั้งป้ายเตือนและกั้นบริเวณรังไข่ เพื่อป้องกันการรบกวนจากนักท่องเที่ยวและสัตว์ล่า
2. ตรวจตรวดระวังบริเวณรังไข่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ลูกเต่าคาดว่าจะฟักออก
3. บันทึกข้อมูลและติดตามสถานะการฟักไข่ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อใช้ในการวิจัยและพัฒนาแนวทางการอนุรักษ์
4. จัดเตรียมแผนการปล่อยลูกเต่าสู่ทะเล เมื่อฟักออกจากไข่ เพื่อให้มีโอกาสรอดชีวิตสูงสุด
5. ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยว เกี่ยวกับความสำคัญของการอนุรักษ์เต่าทะเล และขอความร่วมมือไม่รบกวนแหล่งวางไข่