บราซิลปราบปรามแก๊งอาชญากรรมครั้งใหญ่ ล่าสุด ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 132 คน หลังพบร่างเพิ่มอีกกว่า 70 ร่าง

บราซิลปราบปรามแก๊งอาชญากรรมครั้งใหญ่ ล่าสุด ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 132 คน หลังพบร่างเพิ่มอีกกว่า 70 ร่าง

View icon 140
วันที่ 31 ต.ค. 2568 | 09.51 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 132 คน หลังจากประชาชนพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกกว่า 70 ร่าง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบราซิลเริ่มปฏิบัติการปราบปรามแก๊งอาชญากรรมในนครรีโอเดจาเนโร ก่อนเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม COP30

วันนี้ (31 ต.ค. 68) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า จากเหตุการณ์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบราซิลและหน่วยรักษาความปลอดภัยได้ปฏิบัติการปราบปรามแก๊งอาชญากรรมรายใหญ่ในชุมชนแออัด ทางตอนเหนือของนครรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล ก่อนที่นครรีโอเดจาเนโรจะเป็นเจ้าภาพจัดงานระดับโลกหลายงานที่เกี่ยวข้องกับการประชุมสุดยอดสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ หรือ COP30 โดยพุ่งเป้าไปที่แก๊ง Comando Vermelho (Red Command) ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มอาชญากรรมที่ทรงอิทธิพลของเมืองนี้

ล่าสุด ทางสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า เมื่อช่วงค่ำวันพุธ (29 ต.ค. 68) ที่ผ่านมา ประชาชนในย่านเปนญา ในนครรีโอเดจาเนโร ได้นำศพมารวบรวมไว้บนถนนหลายสิบศพจากพื้นที่รอบป่าที่มีการปราบปราม ซึ่งเมื่อนำมาเรียงบนถนนแล้วพบว่ามีมากกว่า 70 ศพ
ขณะที่ทางตำรวจบราซิลรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 119 คน แต่สำนักงานคุ้มครองสิทธิ์ฯ ระบุว่ามี 132 คน ซึ่งรวมถึงตำรวจ 4 นาย
ด้านรัฐบาลรัฐรีโอเดจาเนโร เผยว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ยังนำไปสู่การจับกุม 113 คน, เด็กและเยาวชน 10 คน, การยึดอาวุธ 118 กระบอก (รวมปืนไรเฟิล 91 กระบอก), ระเบิด 14 ลูก และยาเสพติดประมาณ 1 ตัน

ทั้งนี้ ปฏิบัติการปราบปรามแก๊งอาชญากรรมเหล่านี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อมก่อนการประชุม COP30 ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองเบเลง ริมป่าแอมะซอน ระหว่างวันที่ 10–21 พฤศจิกายนนี้

ทางประธานาธิบดีลูอิส อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิล กล่าวว่า ภัยร้ายจากการความรุนแรงของยาเสพติดต้องถูกปราบปราม และเรียกร้องให้ประสานการทำงานมุ่งเป้าไปที่แก๊งค้ายา โดยไม่ให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและครอบครัวผู้บริสุทธิ์ตกอยู่ในความเสี่ยง ซึ่งเจ้าตัวกล่าวผ่าน X ว่า เราไม่สามารถยอมให้กลุ่มอาชญากรยังคงทำลายครอบครัว กดขี่พลเมือง แพร่กระจายยาเสพติดและความรุนแรงไปทั่วเมือง

ขณะที่ด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชน เช่น Human Rights Watch และสำนักงานสิทธิมนุษยชนของ United Nations Human Rights Office ได้เรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างละเอียดถึงการเสียชีวิตของพลเรือน เพราะมีรายงานว่านำจำนวนผู้เสียชีวิตนั้นมีผู้คนที่ไม่ใช่อาชญากรรวมอยู่ด้วย