สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - หลังจากมีดรามา "กัน จอมพลัง" เปิดเอกสาร ทหาร-ตำรวจ ขอรับความอนุเคราะห์แผ่นเกราะป้องกันกระสุน ฝั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมออกมาติงฝ่ายการเมืองทันทีว่า ทะเลาะกันเองแล้วอย่าดึงทหารเข้าไปเกี่ยวข้อง ยอมรับว่า ถ้าเกิดภาวะวิกฤตจะเบิกจ่ายงบประมาณไม่ทัน
พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงว่า แต่ละปีมีงบประมาณให้กองทัพอยู่แล้ว เป็นการจัดสรรงบประมาณในภาวะปกติ แต่ปัจจุบันไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ปกติ จึงชี้ให้เห็นว่างบประมาณที่อนุมัติในสถานการณ์ปกติไม่เพียงพอ
และหากงบประมาณที่จะจัดสรรให้ตามปกติไม่ทันต่อเหตุการณ์ แล้วมีประชาชนร่วมมือกันจะให้สิ่งของ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะทหารไม่ใช่นักธุรกิจ ที่เมื่อธุรกิจขาดทุนก็เริ่มใหม่ได้ แต่ทหารสูญเสียอวัยวะ เรียกกลับคืนมาไม่ได้
พลโท อดุลย์ ยืนยันว่า กองทัพบกให้เงินได้ แต่งบประมาณทางราชการหากขอตามแผนประจำปี 2 ปี กว่าจะได้ หากเป็นงบกลางต้องใช้เวลาถึง 5 เดือน ที่ออกมาพูดเพราะเห็นใจทหารชายแดน รับของแล้วเจอเรื่องดรามา ฝ่ายการเมืองทะเลาะกันเอง ขออย่าดึงทหารเข้าไปเกี่ยวข้อง ทุกอย่างต้องช่วยกันตรวจสอบ ใครโกงก็ต้องว่าเป็นคน ๆ ไป อย่าเอาความมั่นคงที่เป็นเสาหลักของชาติมาเล่นแบบนี้ กรรมาธิการก็ทำหน้าที่ไป ส่วน กัน จอมพลัง หากจะทำไม่ดีก็ไปตรวจสอบกันเอง
พลโท อดุลย์ ยังยืนยันด้วยว่า ในสภาวะปกติกองทัพไม่ได้ขาดแคลนยุทธภัณฑ์ แต่ขาดในภาวะวิกฤต เมื่อปะทะกันต้องการถนน บังเกอร์ เสื้อเกราะ จึงขอตั้งคำถามว่า หากมีคนเอามาให้จะผิดระเบียบหรือไม่ แต่ตนยอมผิดระเบียบ
ขณะที่ นายเอกราช อุดมอำนวย สส.กทม. พรรคประชาชน ประธานคณะกรรมาธิการการทหาร บอกว่า หลังจากนี้อาจไม่ต้องเชิญ กัน จอมพลัง แล้ว แต่กรรมาธิการจะส่งหนังสือเพื่อขอเอกสารที่หน่วยงานส่งคำขอให้มูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ว่ามีรายการอะไรบ้าง
และยังขอเอกสารจากกองทัพบก ซึ่งโฆษกกองทัพบกรับปากว่าจะรวบรวมเอกสารมาให้ ยืนยันว่า กรรมาธิการไม่ได้มุ่งตรวจสอบเพื่อพุ่งเป้าโทษใคร แต่เพื่อวางระบบของกองทัพ วางมาตรการแนวทางในการรับบริจาคที่ถูกต้อง ว่าสิ่งใดที่กองทัพรับบริจาคได้ หรือไม่ได้ ไม่ใช่ปล่อยให้บริจาคทุกอย่าง
