เฝ้าติดตาม ทหารกัมพูชาถอนอาวุธหนัก

View icon 40
วันที่ 3 พ.ย. 2568 | 11.11 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - หลังจากวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เข้าสู่กระบวนการถอนอาวุธหนักของทหารไทยและทหารกัมพูชา โดยเฉพาะของกัมพูชามีเพจฯ หนึ่งเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด ว่าตกลงแล้วถอนอาวุธหนักจริงหรือเปล่า

เพจที่ว่าคือ เพจเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า Thai Burma railway ทางรถไฟสายมรณะ ต้องยกให้กับความอุตสาหะ รวบรวมภาพที่ชาวกัมพูชา ทหารกัมพูชา ถ่ายภาพและโพสต์ลงตามโซเชียล โดยนำภาพการถอนกำลังโดยเฉพาะอาวุธหนัก รถจรวดหลายลํากล้อง ปืนใหญ่อัตตาจรล้อยาง ที่เตรียมเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ ตั้งแต่จุดรวมพลไปเทียบเคียงกับจุดอ้างอิงต่าง ๆ ในพื้นที่ เพื่อหาพิกัดว่ามีการถอนกำลังจริงหรือเปล่า หรือแค่เพียงถอนไปตั้งกำลังใหม่ไม่ไกลพรมแดน

ทางเพจก็ไล่ภาพขบวนรถวิ่งออกจากจุดรวมพล ไปตามเส้นทาง โดยภาพที่เห็นเป็นสะพานข้ามแยก มุ่งหน้ายังวงเวียนที่ยังไม่มีชื่อเรียก ขบวนรถดังกล่าวยังเคลื่อนที่ไปตามถนน และพบว่ามีการถ่ายคลิปอีกช่วงหนึ่งแล้วโพสต์ ทำให้ทราบว่ากำลังมุ่งหน้าทางตะวันออกไปตามทิศทางบนถนน โดยหากวิ่งตรงไปสักหน่อยก็จะถึงสนามบินเตโช

โดยคลิปนี้น่าจะถูกถ่ายในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 2 พฤศจิกายน เพราะจะเห็นว่าพระอาทิตย์เพิ่งจะพ้นขอบฟ้าในฝั่งตะวันออกของคลิปนี้ ซึ่งเพจนี้ยังคงเฝ้าติดตามการเคลื่อนย้ายกำลังอย่างใกล้ชิด ก็ต้องดูว่าจุดสุดท้ายของขบวนรถอาวุธหนักจะไปถึงพนมเปญเมื่อไหร่

พอเอาคลิป ทหารกัมพูชาเคลื่อนย้ายกำลังพล เเละถอนอาวุธหนัก ออกจากฐานที่มั่นในจังหวัดพระวิหาร และจังหวัดอุดรมีชัย ไปให้ชาวบ้านใน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ดู ชาวบ้านไม่เชื่อว่ากัมพูชาถอนกำลังจริง เพราะที่ผ่านมากัมพูชาไม่เคยทำตามข้อตกลง และก็ไม่อยากให้ทหารไทยถอนกำลัง จนกว่าจะเอาปราสาทตาควายของไทยกลับคืนมาก่อน

ทำให้ตอนนี้กระแสเรียกร้องเอาคืนปราสาทตาควายเริ่มเข้มข้นขึ้น จนอินฟลูเอนเซอร์ เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก "อ้อ ไพรัช-คนกรุงเทพ เหลา" นัดชาวสุรินทร์ ไปรวมตัวกันที่โรงเรียนโคกตะเคียนวิทยา อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เพื่อแสดงจุดยืนเอาปราสาทตาควายคืน ในวันที่ 7 พฤษจิกายนนี้ ตั้งแต่ 13.00-21.00 น.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง