วันนี้ (3 พ.ย. 68) ร.ต.อ ปรีชาศักดิ์ ศักดิ์ยปรีชา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งรถจยย. พ่วงข้างชนเสาไฟฟ้าข้างทาง บนถนนสายบุรีรัมย์-สตึก ก่อนเข้าตัว อ.บ้านด่าน คาดมีผู้เสียชีวิต จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกู้ชีพโรงพยาบาลบ้านด่าน
ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน บริเวณข้างทางพบรถจยย. พ่วงข้าง สีน้ำเงิน ดำ ชนกับเสาไฟฟ้าส่องสว่างข้างทาง สภาพด้านหน้ารถจยย. พ่วงข้างพังยับ บนรถพบศพนายบุญเลิศ อายุ 73 ปี นอนหงายอยู่บนรถ บริเวณหัวด้านซ้ายมีบาดแผลฉกรรจ์ มีเลือดไหลออกเป็นจำนวนมาก
จากการสอบถาม น.ส.สมจิตร อายุ 32 ปี พนักงานขนส่งบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ผู้พบศพคนแรก เล่าว่า ได้มีพลเมืองดีขับรถมาบอกว่ามีรถชนเสาไฟฟ้าใกล้กับโคดังคลังสินค้า ตนเองจึงชวนเพื่อนพนักงานออกมาดู พบว่าคนขับมีอาการชักกระตุกแล้วแน่นิ่งไป จึงลองจับดูชีพจรพบว่าไม่มีแล้ว ก่อนจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ
โดยนายนิกร ผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า คนตายอาศัยอยู่เพียงคนเดียว ปกติจะมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอยู่แล้วซึ่งจะมีเงินเข้าบัญชีให้ไปซื้อของเดือนละ 300 บาท และเพิ่งได้รับเงินจากรัฐบาลมาอีก 850 บาท รวมเป็น 1,150 คาดว่าน่าจะออกมาหาซื้อของในตัวอำเภอ แล้วมาเกิดอุบัติเหตุ ส่วนสาเหตุส่วนตัวคาดว่าอาจจะเกิดจากอาการวูบเพราะ เมื่อไม่นานมานี้ อสม. ประจำหมู่บ้านได้ตรวจพบโรคประจำตัวของนายบุญเลิศ คือโรคความดัน ซึ่งจะต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอีกครั้ง