วันนี้ (4 พ.ย. 68) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิด ร่วมกันจับกุม นายฐิติพงษ์ อายุ 38 ปี เพื่อดำเนินคดี ดังนี้
1. ศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 1025/2567 ลงวันที่ 24 ตุลาคม 2567 โดยต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “โดยทุจริตหรือโดยการหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
2. ศาลอาญา ที่ 5781/2567 ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 โดยต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมและแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น”
3. ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.1570/2567 ลงวันที่ 20 กันยายน 2567 โดยต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริต หรือโดยการหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูล คอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่ น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
4. ศาลจังหวัดลำพูน ที่ จ.212/2562 ลงวันที่ 19 กันยายน 2562 โดยต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน, ผู้ใดกระทำความผิดโดยการ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ผู้อื่นหรือ ประชาชน”
5. ศาลจังหวัดนราธิวาส ที่ 1017/2567 ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2567 โดยต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริต หรือโดยการหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิด ความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”
โดยสามารถจับกุมได้ที่ บริเวณหน้าอาคารแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
จากการสืบสวนพบว่านายฐิติพงษ์ มีประวัติการร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด จึงได้มีการวางแผนการจับกุมอย่างรอบคอบเนื่องจากเป็นคดีที่มีความเสี่ยง และอันตรายในการจับกุม เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาอาจมีอาวุธติดตัว และอาจทำอันตรายได้
จนกระทั่ง ตามวันเวลาที่จับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. ได้สืบสวนติดตามจนทราบว่า นายฐิติพงษ์ หลบหนีมาพักอาศัยในคอนโดย่านรังสิต ปทุมธานี จึงได้เฝ้าสังเกตการณ์จนพบตัว และเข้าแสดงหมายจับ นายฐิติพงษ์ฯ ยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับจริง และยังไม่เคยถูกจับกุมในคดีดังกล่าวมาก่อน
จากการจับกุมได้ตรวจค้นตัวนายฐิติพงษ์ ปรากฏว่าไม่พบอาวุธใดใด และนายฐิติพงษ์ ให้ความร่วมมือในการจับกุมตัวเป็นอย่างดี เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวและนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป