กระทรวงกลาโหมกัมพูชา พาคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) ลงพื้นที่ชายแดน ตรวจสอบการถอนอาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ทำลายล้าง ระยะที่ 1 ตามข้อตกลงหยุดยิง
วันนี้ (4 พ.ย. 68) พล.ท.หญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา รายงานว่า เมื่อเวลา 08.40 น. ที่ผ่านมา คณะประสานงานชุดสังเกตการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้อำนวยความสะดวกให้คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) ในการลงพื้นที่ตรวจสอบการดำเนินการระยะที่ 1 ของการถอนอาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ทำลายล้าง ซึ่งได้ย้ายไปประจำการในที่เดิมที่ จ.กันดาล ประเทศกัมพูชา ซึ่งสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงคือ อาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ทำลายล้างเหล่านี้ได้ถูกถอนออกจากอำเภอจอมกระสานต์ และอำเภอระเวียง จังหวัดพระวิหาร เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 เวลา 18:45 น. ตามแผนการถอนอาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ทำลายล้าง ตามขั้นตอนที่ทั้งกัมพูชาและไทยได้ตกลงร่วมกัน
การถอนอาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ทำลายล้างดังกล่าว เป็นการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความมุ่งมั่นอันจริงใจและแน่วแน่ของกัมพูชา ในการปฏิบัติตามปฏิญญาร่วมระหว่างกัมพูชาและไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีลงนามโดยนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต ของกัมพูชา และนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล ของไทย โดยมีประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย เป็นสักขีพยาน เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2568
ทั้งนี้ กัมพูชาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทั้งกัมพูชาและไทยจะปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างครบถ้วนและมีประสิทธิผล ด้วยความจริงใจ มีเจตนาที่ดี และโปร่งใส เพื่อส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือ การพัฒนา และการกลับคืนสู่ภาวะปกติอย่างรวดเร็ว