ข่าวภาคค่ำ - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยัน ปราสาทตาควายเป็นของไทย ต้องทวงคืนกลับมาให้ได้ พร้อมขอให้ประชาชนเข้าใจกองทัพไม่นิ่งนอนใจแน่นอน ขณะที่โซเชียล หวั่นว่า ไทยจะสูญเสียปราสาทตาควายให้กัมพูชา
เพจ Thai Burma railway ทางรถไฟสายมรณะโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า ไทยเสียปราสาทตาควายไปตั้งแต่ก่อนรุ่งสางของวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา และกัมพูชา ยังยึดครองอยู่ ซึ่งคนไทยต้องยอมรับความจริงกันให้ได้ ขณะที่คนในโซเชียลพากันโพสต์ข้อความว่า ไทยได้สูญเสียปราสาทตาควาย หมดสิทธิได้คืนแล้ว
แต่เรื่องนี้ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่า ปราสาทตาควายยังเป็นของไทยอยู่ ถ้าไม่สามารถเคลียร์เรื่องประสาทตาควายได้ ก็จะไม่คุยเรื่องอื่นอีก
รวมถึงได้พูดคุยกับฝ่ายกัมพูชาไปแล้วว่า ทำผิดอนุสัญญาเจนีวา เรื่องการใช้โบราณสถานเป็นฐานที่มั่นทางทหาร และการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลล้อมรอบปราสาทที่ผิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมยืนยันว่า ถ้ายังไม่ได้ประสาทตาควายคืน กองทัพจะไม่ยอม และไม่จบแน่นอน
ส่วนกรณีที่มีกลุ่มอินฟลูฯ จะรวมตัวจัดกิจกรรมทวงคืนปราสาทตาควายนั้น พลเอกณัฐพล ระบุว่า ขอความเห็นใจ และขอความร่วมมือ เพราะการแก้ปัญหาต้องค่อย ๆ ทำไป กองทัพไม่ใจเย็นแน่นอน ส่วนการเปิดด่าน จะยังไม่มีการคุยอย่างแน่นอน ถ้ายังไม่สามารถตกลงกันได้
ขณะที่ พลโท บุญสิน พาดกลาง ที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก และอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่า ปราสาทตาควายเป็นของไทย ต้องทวงคืนอย่างแน่นอน แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับกองทัพและรัฐบาลว่า จะมีแนวทางอย่างไรต่อไป แต่การทวงคืน โดยไม่สูญเสียจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
พลโท บุญสิน เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทีมงานกำลังขอจดทะเบียนก่อตั้งมูลนิธิ เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้และด้อยโอกาส มีวัตถุประสงค์ เพื่อช่วยเหลือประชาชนรวมทั้งลูกหลานของกำลังพลที่ได้รับผลกระทบจากการปฎิบัติหน้าที่ ซึ่งตนเองจะรับหน้าที่เป็นประธานมูลนิธิเอง
ส่วนความคืบหน้า หลังจากลงนามปฏิญญาสันติภาพไทย-กัมพูชา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า ขณะได้มีการย้ายฐานยิง 40 กว่าฐานยิง ออกไปโดยใช้เวลาไม่กี่วัน ซึ่งเรื่องการถอนอาวุธ ต้องปล่อยให้กองทัพเป็นผู้ดำเนินการ ยืนยันว่า มีความคืบหน้า