ย้ำชัด ! ไทยยังไม่เสีย ปราสาทตาควาย

View icon 45
วันที่ 5 พ.ย. 2568 | 06.43 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - ท่าทีของรัฐบาลเกี่ยวกับปราสาทตาควาย ก็ยังยืนยันชัดเจนและหนักแน่นว่า ยังเป็นของไทยอยู่ และไม่ได้เสียไปให้กับกัมพูชาแต่อย่างใด

เป็นคำยืนยันจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่พูดเกี่ยวกับปราสาทตาควาย แม้ว่าจะมีกำลังทหารของกัมพูชาเข้าไปอยู่ในพื้นที่ โดยประเด็นนี้ พลเอกณัฐพล มองว่า กัมพูชาเป็นฝ่ายทำผิดอนุสัญญาเจนีวา เรื่องการใช้โบราณสถานเป็นฐานที่มั่นของทหาร รวมถึงการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลล้อมรอบปราสาท ซึ่งผิดอนุสัญญาออตตาวาอีกด้วย

ส่วนจะมีการนำตัว 18 เชลยศึกเข้าไปต่อรองในประเด็นดังกล่าวหรือไม่นั้น พลเอกณัฐพล พูดอย่างหนักแน่นว่า "ไม่"

เช่นเดียวกับ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า เรายังไม่เสียปราสาทตาควาย แต่หลังเกิดการปะทะ ไทยยังไม่ได้เข้าไปควบคุม หรือไปใช้ประโยชน์ร่วมกันเหมือนช่วงที่ผ่านมา เพราะในข้อตกลงหยุดยิงถูกระบุไว้ว่า หากใครยึดครองอยู่ตรงไหน ให้อยู่ตรงนั้น ยืนยันว่าบริเวณพื้นที่ตัวปราสาทตาควายเท่านั้นที่ทหารกัมพูชายึดไว้ ส่วนบริเวณโดยรอบมีทหารไทยตรึงกำลังอยู่

หลังจากนี้ในที่ประชุม JBC จะมีการนำเทคโนโลยี "ไลดาร์" (LiDAR) เข้ามาช่วยเป็นหลักฐานในการชี้วัด ยืนยันว่าหากยังไม่มีการชี้วัดเท่ากับว่าไทยยังไม่ได้เสียปราสาทตาควาย

ด้าน พลโท บุญสิน พาดกลาง ที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก ยืนยันว่า ปราสาทตาควายเป็นของไทย ต้องทวงคืนอย่างแน่นอน ซึ่งแนวทางต้องขึ้นอยู่กับกองทัพและรัฐบาล แต่การไม่สูญเสียกำลังพลเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

ด้าน "นายกฯ อนุทิน" ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับเงื่อนไข 4 ข้อของรัฐบาลไทยว่า ได้มีการประเมินทุกวัน ซึ่งมีความคืบหน้าต่อเนื่อง

ขณะที่ สมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กย้ำจุดยืนเดิมว่า ไม่เคยขอให้ไทยเปิดด่านชายแดน และหากไทยต้องการปิดต่อไปอีก 100 ปี หรือ 500 ปี ก็เป็นการตัดสินใจของไทย ที่สำคัญการปิดด่านพรมแดน ไม่ได้นำไปสู่ความล่มสลายของกัมพูชา แต่ตรงกันข้ามมันกลับสร้างโอกาสให้เกิดการเพิ่มขึ้นของสินค้าภายในประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง