กรมชลประทาน ปรับเพิ่มการระบายน้ำ “เขื่อนเจ้าพระยา” เป็น 2,500 ลบ.ม./วินาที

กรมชลประทาน ปรับเพิ่มการระบายน้ำ “เขื่อนเจ้าพระยา” เป็น 2,500 ลบ.ม./วินาที

View icon 141
วันที่ 5 พ.ย. 2568 | 08.07 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
กรมชลประทาน เร่งพร่องน้ำ เตรียมรับน้ำเหนือ “เขื่อนเจ้าพระยา” ต้องปรับการระบายน้ำเพิ่มเป็น 2,500 ลบ.ม./วินาที

สำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันนี้ (5 พ.ย. 68) เวลา 7.00 น. ปริมาณน้ำรวม 88% ของความจุเก็บกัก (70,960 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 81% (46,838 ล้าน ลบ.ม.)

การประเมินสถานการณ์แหล่งน้ำขนาดใหญ่

- แหล่งน้ำขนาดใหญ่ปริมาณน้ำต่ำกว่าระดับควบคุมต่ำสุด จำนวน 1 แห่ง ภาคตะวันออก : คลองสียัด
- แหล่งน้ำขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำเก็บกักน้อยกว่า 30% จำนวน 21 แห่ง ดังนี้ ภาคเหนือ 3 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 แห่ง ภาคตะวันออก 5 แห่ง ภาคตะวันตก 7 แห่ง และภาคใต้ 2 แห่ง

คุณภาพน้ำ ณ จุดเฝ้าระวัง แม่น้ำสายหลัก

- น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค แม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีสูบน้ำสำแล จ.ปทุมธานี อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
- น้ำเพื่อการเกษตร แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำบางปะกง อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

และ เมื่อวานนี้ (4 พ.ย. ) นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำ ระบุ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวในช่วงวันที่ 6 - 8 พ.ย. 68

โดยให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำปิง วัง ยม น่าน และเจ้าพระยา ซึ่งยังคงน่าเป็นห่วงจากอิทธิพลของพายุ 6 ลูกที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณน้ำในเขื่อนอยู่ในเกณฑ์สูงเกือบเต็มความจุ โดยเฉพาะเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนอุบลรัตน์ ซึ่งอยู่ในแนวพื้นที่ที่จะได้รับอิทธิพลจากพายุลูกนี้

จึงขอให้ทุกหน่วยงานวางแผนการพร่องระบายน้ำจากแต่ละเขื่อนอย่างรอบคอบรัดกุม เพื่อรักษาความปลอดภัยของตัวเขื่อนและต้องไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำ

โดยในวันที่ 5 พ.ย. 68 กรมชลประทาน ปรับเพิ่มการระบายน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาเป็น 2,500 ลบ.ม./วินาที โดยผันน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวาของแม่น้ำเจ้าพระยา และหน่วงเก็บกักน้ำในทุ่งรับน้ำ เพื่อไม่ให้ซ้ำเติมผลกระทบต่อประชาชน

ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำมากกว่า 2,700 ลบ.ม./วินาที กรมชลประทานจะประสาน สทนช. เพื่อจัดทำหนังสือเสนอคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) พิจารณาต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง