อดีตทหารผู้ผ่านสมรภูมิปราสาทตาควายยืนยัน การทวงคืนปราสาทตาควาย ไม่สามารถทวงคืนด้วยปลายปากกาและอนุสัญญาใดได้ จำเป็นที่จะใช้กำลัง ผ่านการวางแผนอย่างรอบด้านเพื่อไม่สูญเสียกำลังพล ลั่น "ขอสู้ครั้งสุดท้ายเพื่อชาติ"
โดยวันนี้ (5 พ.ย. 68) ทีมข่าวออนไลน์ช่อง 7HD ได้พูดคุยกับ "กรกต เกตุแก้ว" อดีตทหารพรานจู่โจม 911 ชค. 513 ค่ายปักธงชัย เคยอยู่สมรภูมิตาควายเมื่อปี 2551 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทหารกัมพูชาลอบขึ้นมายึดตัวปราสาท แต่ทหารก็สามารถใช้กำลังผลักดันออกไปภายในวันเดียว
อีกทั้งยังได้เปิดเผยการสู้รบบนปราสาทตาควาย เมื่อปี 2554 ที่ขณะนั้นทหารพราน กรม 26 ค่ายปักธงชัย ขึ้นยึดเนิน 350 ที่กัมพูชาเข้ามาทำป้อมรบไว้บนเนิน 12 ป้อม มีการปะทะกันดุเดือดแต่ในที่สุดไทยก็ยึดได้
โดยครั้งนั้น พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ เป็นผู้การกรม ณ ขณะนั้น และอยู่ในแนวรบอำนวยการรบจนได้ชัยชนะ โดยการรบกันครั้งนั้นทหารไทยพลีชีพพิทักษ์แผ่นดินไป 8 นาย
ปัจจุบันทหารกัมพูชาได้เข้ายึดตัวประสาทตาควาย อีกครั้ง แต่ครั้งนี้กำลังพลและยุทโธปกรณ์ของกัมพูชาพัฒนาไปมาก หากมีการสู้รบอีก ตนจึงมองว่า การใช้เครื่องบินเอฟ 16 และกริพเพน จะช่วยให้ไม่สูญเสียกำลังพลของไทย และยืนยันว่าการทวงคืนปราสาทตาควาย จำเป็นต้องใช้กำลังเพราะไม่ว่าอนุสัญญาฉบับไหน กัมพูชาก็ไม่เคยสน และแนวคิดการแลกทหารเฉลยศึก 18 นาย แลกกับปราสาทตาควาย เป็นไปได้ยาก เพราะขนาดทหารเขาเสียชีวิตหลายนาย ยังไม่เก็บศพเลย