Open World เปิดโลกรายวัน : สรุปข่าวรอบโลกประจำวันที่ 5 พ.ย.68
1.พายุไต้ฝุ่น "คัลแมกี" ถล่มฟิลิปปินส์ ดับ 66 คน
กระแสน้ำเชี่ยวจากน้ำท่วมฉับพลัน พัดเอารถยนต์จำนวนมาก รวมทั้งรถบรรทุกขนาดใหญ่ ให้ไหลไปตามถนนที่เปลี่ยนสภาพเป็นเหมือนลำคลอง ซึ่งเป็นผลจากพายุไต้ฝุ่น "คัลแมกี" (Kalmaegi) ที่เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งทางตอนกลางของฟิลิปปินส์ บริเวณหมู่เกาะวิซายัส (Visayan Islands) เมื่อช่วงเช้าตรู่วานนี้ (4 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีฝนตกหนักและกระแสลมแรง จากนั้นพายุได้พัดถล่มพื้นที่บางส่วนของเกาะปาลาวัน (Palawan) ในวันนี้ ขณะเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้
ความรุนแรงของพายุยังทำให้บ้านเรือนประชาชนจำนวนมากในจังหวัดเซบู (Cebu) ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการท่องเที่ยวหลักของฟิลิปปินส์ พังเสียหายจนแทบไม่เหลือซาก นอกจากนี้ รถยนต์อีกจำนวนมากยังถูกกระแสน้ำซัดจนไหลไปทับกันเป็นกองพะเนิน ขณะเดียวกัน ประชาชนกว่า 200,000 คน ในภูมิภาควิซายัส รวมทั้งพื้นที่ตอนใต้ของเกาะลูซอน (Luzon) และตอนเหนือของเกาะมินดาเนา (Mindanao) ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนของตนเอง ขณะที่ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง
ล่าสุด มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 66 คน ในจำนวนนี้ 6 คน เป็นทหารที่เสียชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกที่จังหวัดอากูซันเดลซูร์ (Agusan del Sur) บนเกาะมินดาเนา ขณะกำลังปฏิบัติภารกิจกู้ภัย นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 10 คน สูญหายอีก 26 คน
ทั้งนี้ พายุไต้ฝุ่น "คัลแมกี" นับเป็นพายุลูกที่ 20 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในปีนี้ โดยพายุลูกนี้กำลังเคลื่อนตัวมุ่งหน้าไปทางเวียดนาม และคาดว่าจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งทางตอนกลางของเวียดนามในวันศุกร์นี้
2.“ฮุน เซน” ลั่นไทยปิดด่านอีก 100 หรือ 500 ปี กัมพูชาก็ไม่ล่มสลาย
สมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ย้ำอีกครั้ง ถึงกระแสกัมพูชาเป็นฝ่ายเรียกร้องให้ไทยเปิดด่านชายแดน โดยยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง แต่ที่ผ่านมา ผู้นำไทยบางคนหยิบยกประเด็นการเปิดชายแดนขึ้นมาพูดซ้ำ ๆ ซึ่งอาจกลายเป็น ประเด็นหาเสียง ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงของไทย อาจสร้างความสับสนให้กับสาธารณชนทั้งในกัมพูชาและไทย จนนำไปสู่ความเข้าใจผิดว่า กัมพูชาได้ร้องขอให้ไทยเปิดชายแดน
“ฮุน เซน” จึงขอย้ำอีกครั้งว่า นับตั้งแต่ไทยปิดชายแดน กัมพูชาไม่เคยร้องขอ ให้ประเทศไทยเปิดด่านชายแดนเลย หากไทยต้องการปิดด่านต่อไป อีก 100 ปี หรือ 500 ปี ก็เป็นการตัดสินใจของไทยทั้งสิ้น
โดยการปิดด่านชายแดนนี้ ไม่ได้ทำให้กัมพูชาล่มสลาย แต่ในทางกลับกัน ได้สร้างโอกาสด้วยการกระตุ้นให้ใช้สินค้าในประเทศเพิ่มขึ้น ส่งเสริมการเติบโตของการผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่น และ ขอสื่อสารกับมิตรประเทศและคู่ค้าว่า การที่ไทยปิดด่าน ไม่ใช่แค่การตัดความสัมพันธ์ทวิภาคี แต่เป็นการขัดขวางประชาคมอาเซียนและเอเชียทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ทางถนน หรือทางรถไฟอาเซียน
สุดท้ายหวังว่า ข้อความนี้จะไปถึงผู้นำและประชาชนชาวไทย และ เพื่อทำให้ชัดเจนว่า กัมพูชาไม่ได้วิงวอนขอให้เปิดด่านชายแดนอีกครั้ง เช่นเดียวกัน ยังหวังว่าประชาชนชาวกัมพูชา จะไม่เข้าใจผิดว่ารัฐบาล กำลังลดตัวไปร้องขอความร่วมมือจากไทยในการเปิดชายแดน
3.เครื่องบินขนส่งประสบเหตุ “ตก” ไฟลุกท่วม ที่สหรัฐฯ
เมื่อเวลาราว 05.15 น. วานนี้ (4 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น เกิดเหตุเครื่องบินขนส่งสินค้าของบริษัท "ยูพีเอส" (UPS) เที่ยวบินที่ 2976 พร้อมนักบินและลูกเรือรวม 3 คน ที่กำลังจะเดินทางไปยังเมืองโฮโนลูลู รัฐฮาวาย ของสหรัฐฯ ประสบเหตุตก ไม่นานหลังเพิ่งขึ้นบินจากสนามบินนานาชาติหลุยส์วิลล์ มูฮัมหมัด อาลี (Louisville Muhammad Ali International Airport) ในรัฐเคนทักกี ส่งผลให้มีลูกไฟขนาดใหญ่ลุกไหม้ขึ้น ก่อนที่เพลิงจะลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียงในเขตอุตสาหกรรมที่อยู่ติดกับสนามบิน เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คน เป็นผู้อยู่บนเครื่องบิน 3 คน ผู้ที่อยู่ภาคพื้นดิน 4 คน และมีผู้บาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอีก 11 คน ส่วนสาเหตุเครื่องบินตกยังไม่ทราบแน่ชัด
ทั้งนี้ ทางการท้องถิ่นประกาศให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในรัศมี 8 กิโลเมตร อยู่แต่ในบ้านเรือนของตนเองและปิดประตู-หน้าต่างให้มิดชิดเพื่อป้องกันควันพิษจากเพลิงไหม้
4.ญี่ปุ่นส่งกองกำลัง “ปราบหมี” หลังทำร้ายคนไปกว่า 100 ครั้ง
เจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น หรือ JSDF (Japanese Self-Defense Forces) ลงพื้นที่ปฏิบัติการช่วยเหลือทางการท้องถิ่นเมืองคาซูโนะ (Kazuno) จังหวัดอากิตะ (Akita) ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น หลังถูกร้องขอเป็นการเร่งด่วนจากทางการท้องถิ่น ซึ่งกำลังประสบปัญหาหมีบุกทำร้ายประชาชนมาแล้วหลายครั้ง จนชาวเมืองต้องพากันหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าใกล้ป่าหนาทึบและพื้นที่โดยรอบมาแล้วเป็นเวลาหลายสัปดาห์ รวมทั้งต้องอยู่แต่ในบ้านเรือนหลังพระอาทิตย์ตกดิน และต้องถือกระดิ่งติดตัวอยู่เสมอเพื่อป้องกันหมีที่อาจออกมาหาอาหารใกล้บ้านของประชาชน
ข้อมูลจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมระบุว่า นับตั้งแต่เดือนเมษายนปีนี้ มีรายงานหมีทำร้ายคนมากกว่า 100 ครั้ง ทั่วประเทศ และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน โดยเหตุ 2 ใน 3 ของจำนวนผู้เสียชีวิต อยู่ในเขตจังหวัดอากิตะ และจังหวัดอิวาเตะ (Iwate) ซึ่งมีเขตติดต่อกัน
สำหรับปฏิบัติการดังกล่าว กองกำลัง JSDF จะช่วยขนส่ง วาง และตรวจสอบกับดักที่ใช้จับหมี แต่หมีเหล่านี้จะถูกกำจัดโดยนักล่าที่ผ่านการฝึกฝน ซึ่งมีอาวุธที่เหมาะกับการใช้กำจัดหมีมากกว่าของทหาร
ทั้งนี้ ทางการท้องถิ่นจังหวัดอากิตะเปิดเผยว่า ปีนี้มีการพบเห็นหมีเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า เป็นกว่า 8,000 ครั้ง ซึ่งทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องร้องขอความช่วยเหลือจากกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
5."เดวิด เบ็คแฮม" เข้ารับพระราชทานบรรดาศักดิ์อัศวิน
“เดวิด เบ็คแฮม” หนึ่งในนักฟุตบอลที่โด่งดังที่สุดของสหราชอาณาจักร ได้รับพระราชทาน บรรดาศักดิ์ยศอัศวิน (Knighted) จากสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ ณ ปราสาทวินด์เซอร์ เมื่อวันอังคาร (4 พฤศจิกายน) เพื่อเป็นการยกย่องการอุทิศตนตลอดหลายทศวรรษของเขาในด้านกีฬาและงานการกุศล
เดวิด เบ็คแฮม อดีตกัปตันทีมฟุตบอลอังกฤษวัย 50 ปี เป็นผู้ที่ชื่นชมราชวงศ์มาตลอดชีวิต ในวันรับพระราชทานบรรดาศักดิ์ เขาสวมชุดสูทที่ออกแบบโดย วิกตอเรีย เบ็คแฮม ภรรยาของเขา เขากับสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ได้มีการแลกเปลี่ยนบทสนทนาที่สั้นแต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นในระหว่างพิธี โดยเห็นพระองค์ทรงแย้มสรวลและหัวเราะขณะพูดคุยกัน
หลังเสร็จสิ้นพิธี เดวิด เบ็คแฮม บอกว่า เขาร้องไห้ ตอนที่รู้ครั้งแรกว่าจะได้รับยศอัศวิน เพราะ มันเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยจินตนาการว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเองเลย ความฝันในวัยเด็กคือการได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพ เล่นให้กับสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเป็นตัวแทนของประเทศ ซึ่งโชคดีพอที่สามารถทำได้ การที่เด็กชายวัย 14 ปีจากอีสต์ลอนดอน ได้มายืนอยู่ตรงนี้ในปราสาทกับพระมหากษัตริย์ มันเป็นช่วงเวลาที่น่าภาคภูมิใจและยิ่งใหญ่มาก สำหรับเขาและครอบครัว แถมเขายังพูดติดตลกอีกว่า เขาจะไม่ติดใจอะไรหากลูกๆ เรียกเขาว่า "ท่านพ่อ (Sir Dad)
