อุบัติเหตุสลด สิ้นเดือน พ.ย. นี้ ก็ถึงกำหนดคลอด สาวท้อง 9 เดือน ขี่รถ จยย. ไปส่งลูกคนโตไปอยู่บ้านแม่ ขากลับไม่ถึงบ้าน ชนท้ายรถเก๋งจอดรอเลี้ยว เจ็บสาหัส สุดท้ายสุดยื้อ ตายทั้งกลม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 พ.ย. 68 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.อิสระ แสงสว่าง รองสารวัตร(สอบสวน) ช่วยราชการ สภ.บ้านคลองสวน ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถเก๋งมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณถนนซอยประชาอุทิศ 90 เยื้องตลาดสายชล หมู่ที่ 2 ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยรถกู้ชีพโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ และรถกู้ชีพมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน รถวิ่งสวนทางกัน บริเวณกลางถนนพบรถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียน 2ขช 4800 กรุงเทพมหานคร จอดเปิดไฟฉุกเฉินในสภาพท้ายรถพังยับเยิน ใกล้กันพบรถคู่กรณีเป็นรถจักรยานยนต์ สี บรอนซ์เงิน ทะเบียน 9ขล 8643 กรุงเทพมานคร ล้มคว่ำในสภาพด้านหน้ารถพัง มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิงตั้งครรภ์ใกล้คลอด นอนหงายหายใจรวยรินอยู่บนพื้นถนน เจ้าหน้าที่กู้ชีพเร่งปฐมพยาบาล และทำ CPR นานกว่า 5 นาที แต่ไม่เป็นผล ผู้บาดเจ็บเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบตามร่างกายมีบาดแผลแตกขนาดใหญ่ที่ศีรษะ สวมเสื้อยืดแขนขาวสีเขียว สวมกางเกงขาสั้นสีดำ ทราบชื่อภายหลัง คือ น.ส.มิลตรา อายุ 36 ปี
สอบถาม นายนิวาส อายุ 49 ปี คนขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง บอกว่า ขณะที่ตนกำลังนั่งรอผู้โดยสารและก้มหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่ในวินด้านหน้าตลาด ได้ยินเสียงดังโครมมาทางถนน ก่อนหันหน้าไปดูเห็นรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถยนต์ก๋งแล้ว และมีผู้หญิงที่เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์นอนแน่นิ่งกองอยู่กับพื้น หลังจากนั้นได้มีแม่ค้าและประชาชนที่เดินทางมาจับจ่ายซื้อของที่ตลาดต่างวิ่งเข้าไปช่วยเหลือ พร้อมโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ชีพและตำรวจให้รีบเดินทางมาช่วยเหลือ
ด้าน นายบุญลือ อายุ 45 ปี สามีผู้เสียชีวิต บอกว่า ภรรยากำลังตั้งครรภ์ได้ 9 เดือนแล้ว โดยสิ้นเดือน พ.ย. 68 นี้จะครบกำหนดคลอด ก่อนเกิดเหตุภรรยาได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพักแถวเชิงสะพานข้ามคลองใกล้หมู่บ้านชื่อดังแห่งหนึ่ง เพื่อไปส่งลูกสาวคนโตที่บ้านแม่ของภรรยาย่านวัดทุ่งครุ ก่อนที่ขี่รถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุกลับบ้าน กระทั่งมาเกิดอุบัติเหตุสลดดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้บันทึกภาพและลงบันทึกประจำวันไว้เบื้องต้น ก่อนมอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวชเพื่อผ่าพิสูจน์ พร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิด จากนั้นเชิญตัวคนขับรถยนต์เก๋งไปสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
