ห้องข่าวภาคเที่ยง - วันนี้จริงจังและเป็นรูปธรรมปราบปรามสแกมเมอร์ หลังประกาสเป็นวาระแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี ก็ขึงขัง บอกเจ้าหน้าที่ไม่ต้องกลัวใดใด เดินหน้าเต็มที่ หลังให้อำนาจเต็มที่
นายกรัฐมนตรี คุณอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้หน่วยงานหลักประสานการทำงาน อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมแล้ว 14 หน่วยงาน ที่จะได้ทำงานได้อย่างเป็นรูปธรรม
เพราะ นายกฯ บอกเองเลยว่า รัฐบาลสนับสนุนเต็มที่ ไม่เฉพาะความร่วมมือในประเทศ ยังเดินหน้าร่วมมือผ่านเวทีนานาชาติ
ขณะที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ขอให้ นายกรัฐมนตรี เร่งปราบปรามอย่างจริงจังเป็นรูปธรรมชัดเจน และจากที่บอกเป็นวาระแห่งชาติ อีกทั้งเชื่อว่าภาพ นายกรัฐมนตรี คุยกับ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พรรคกล้าธรรม เพื่อต้องการลดกระแสสแกมเมอร์ที่ถูก พรรคประชาชน โหมโจมตีด้วยวลี "มีเรา ไม่มีเทา" กระแทกใส่รัฐบาลอย่างหนักหน่วง
และเมื่อฝ่ายค้านมีข้อมูลก็ควรดำเนินการตามกฎหมายที่เปิดช่องให้ และ นายกฯ สามารถเชิญ พลตำรวจเอก สุเชชษฐ์ หักพาล, นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์, นายรังสิมันต์ โรม และรักชนก ศรีนอก ที่เปิดเผยเรื่องนี้ รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อเท็จจริงได้ แต่กลับไม่ดำเนินการใด ๆ เอาแต่พูดย้ำว่าเป็นวาระแห่งชาติ และนายกฯ ยังสามารถเรียกขอข้อมูลจากสหรัฐฯ จีน อังกฤษ เกาหลีใต้ มาดำเนินการสอบสวน ถ้าโยงถึงใครต้องไม่มีคำว่ายกเว้นใด ๆ ทั้งสิ้น
ขณะที่ นายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ บอกว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความคืบหน้าในการแก้ปัญหาสแกมเมอร์น้อยที่สุด แต่ถ้านายกรัฐมนตรีเอาจริง เชื่อว่าหลายหน่วยงานพร้อมทำหน้าที่ ปัญหาขณะนี้ที่หน่วยงานเกียร์ว่างไม่ดำเนินการจริงจัง ตนไม่มั่นใจว่าเพราะไม่มีพยานหลักฐาน ไม่มีข้อมูล หรือเป็นเพราะเชื่อมถึงใครหรือไม่
นายรังสิมันต์ บอกว่า พร้อมจะนำข้อมูลไปใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และพร้อมพูดคุยกับ พรรคเพื่อไทย เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีการพูดคุย ยืนยันว่าข้อมูลเหล่านี้สามารถเอาผิดบุคคลในฝ่ายการเมืองได้ และขยายผลไปถึงเครือข่ายต่าง ๆ หรือคนที่เกี่ยวข้องได้ทุกระดับ
