สกัดรถดัดแปลงขน 15 แรงงานเถื่อนกลางถนนสายเอเชีย แอบซุกชาวจีน คาดเอี่ยวแก๊งคอลเซนเตอร์ ตรวจสอบคนขับพบยาเสพติดฯ อีกจำนวนหนึ่ง

สกัดรถดัดแปลงขน 15 แรงงานเถื่อนกลางถนนสายเอเชีย แอบซุกชาวจีน คาดเอี่ยวแก๊งคอลเซนเตอร์ ตรวจสอบคนขับพบยาเสพติดฯ อีกจำนวนหนึ่ง

View icon 103
วันที่ 7 พ.ย. 2568 | 09.36 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (7 พ.ย. 68) ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ Anti Cyber Scam Center ร่วมกันจับกุม

1.นายบุญช่วย สัญชาติไทย ภูมิลำเนา จ.ตาก ในข้อหารู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักร โดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ  เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้น จากการจับกุม และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน(ยาบ้า,ยาไอซ์) ไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต

2. ผู้ถูกจับที่ 2-16 (หลบหนีเข้าเมืองสัญชาติ เมียนมา รวม 14 ราย ชาย 5 หญิง 9 คน สัญชาติ จีน 1 ราย  ชาย 1 คน) ในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”

โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณถนนสายเอเชีย จ.พระนครศรีอยุธยา พฤติการณ์  ตามนโยบายการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ของ ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ Anti Cyber Scam Center โดยมี พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช เป็นหัวหน้าศูนย์ ได้มีนโยบายให้ ตำรวจทางหลวง ทำการป้องกันปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่อาจใช้เส้นทางบนถนนหลวง เป็นเส้นทางในการหลบหนี หรือเป็นทางผ่านในการเคลื่อนย้ายฐานที่ตั้ง หลังมีการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์อย่างจริงจัง

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สืบทราบว่าจะมีขบวนการขนแรงงานต่างด้าวหลบหนี เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายผ่านเข้ามาใน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรมของรถยนต์กระบะต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนสกัดรถยนต์คันดังกล่าว
      
จนกระทั่งมีรถยนต์ต้องสงสัย มีลักษณะกระจกทึบ มีน้ำหนักบรรทุกเกินกว่าปกติ จึงได้สกัดกั้นเละเข้าตรวจสอบ พบนายบุญช่วย แสดงตัวเป็นผู้ขับขี่ และมีคนนั่งโดยสารอัดมาเต็มในคันรถ จำนวน 10 ราย และท้ายที่กระบะ มีการดัดแปลงนำแผ่นไม้อัดมาวางพาดเพื่อวางสัมภาระที่ด้านบน เพื่อให้ด้านล่างมีช่องสำหรับซุกซ่อนคนอีก จำนวน 5 ราย

จากการตรวจสอบพบเป็นคน สัญชาติเมียนมา 14 ราย และสัญชาติจีน 1 ราย ที่ปลอมตัวแต่งกาย แฝงตัวมากับชาวเมียนมา ทั้งหมดไม่มีเอกสารประจำตัวมาแสดง จึงคาดว่าเป็นแรงงานเถื่อนที่หลบหนีเข้าเมืองมาอย่างผิดกฎหมาย และยังได้ตรวจสอบภายในรถยนต์ พบมียาบ้า 34 เม็ด และยาไอช์ 0.3 กรัม ซึ่งนายนายบุญช่วย ผู้ขับขี่ รับว่าเป็นของตนจริง

เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง จึงได้ทำการตรวจยึดรถยนต์ และยาเสพติดไว้เป็นของกลาง ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามปากคำนายบุญช่วย ผู้ขับขี่เบื้องต้นให้การว่า ตนเคยถูกจับในคดีลักษณะเดียวกันนี้ถึง 3 ครั้งในรอบปี และพึ่งได้รับการประกันตัวในชั้นศาล เป็นเงิน 50,000 บาท ประกอบกับว่างงานจึงได้ติดต่อนายจ๋อ นายหน้า เพื่อขอรับงาน ได้ค่าจ้างจำนวน 500 บาท ต่อ 1 คน ส่วนผู้ต้องหาชาวเมียนมา และชาวจีน ให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบนั่งเรือจากฝั่งเมียนมา อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อจะเข้ามาหางานทำงานในประเทศไทย

โดยชาวเมียนมาเสียค่าใช้จ่ายให้กับนายหน้าจำนวนเงิน 20,000 บาทต่อคน และชาวจีนเสียค่าใช้จ่ายให้กับนายหน้าจำนวนเงิน 130,000 บาท โดยผู้ต้องหาชาวจีนมีหลักฐานน่าเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือสแกมเมอร์ ที่ถูกทางการเมียนมากวาดล้าง จึงจำเป็นต้องหลบหนีเข้ามาโดยผิดกฎหมาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง