“มาลี โสเจียต” โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ยืนยัน กองทัพกัมพูชาและไทยจะเริ่มการถอนอาวุธหนักบริเวณชายแดน ช่วงที่ 2 ของเฟสแรก ในวันพรุ่งนี้
วันนี้ (7 พ.ย. 68) พลโทหญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา แถลงว่า กัมพูชาและไทยจะเริ่มดำเนินการถอนอาวุธหนักตามแนวชายแดน ช่วงที่ 2 ของเฟสแรก ในวันพรุ่งนี้ (8 พ.ย. 68) ภายใต้การตรวจสอบของคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) หลังจากการถอนอาวุธช่วงที่ 1 เสร็จสิ้น เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
โดยในการประชุม RBC เมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการถอนอาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ทำลายล้างเป็นระยะ ๆ โดยเฟสแรกมี 3 ช่วง เริ่มตั้งแต่วันที่ 1-21 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนปฏิบัติการร่วมเพื่อลดความตึงเครียดและเสริมสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน
สืบเนื่องจากการที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนาม "ถ้อยแถลงร่วม" ไทย-กัมพูชา ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุด รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรการค้าอาวุธกับกัมพูชาแล้ว โดยระบุว่ากัมพูชาแสดงความมุ่งมั่นที่จะยุติความขัดแย้งโดยสันติ และจะให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯ ในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ
ทั้งนี้ อดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ สั่งห้ามขายอาวุธให้กัมพูชาตั้งแต่ปี 2564 โดยอ้างว่าเพื่อลดอิทธิพลการครอบงำของจีน รวมถึงปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการทุจริตภาครัฐ