“บิ๊กเล็ก” สั่งกองทัพระดมสรรพกำลัง ช่วยเหลือประชาชน จากพายุ “คัลแมกี” เหล่าทัพแบ่งพื้นที่รับผิดชอบ ช่วยเหลือประชาชน เป็นรายตำบล
วันนี้ (7 พ.ย.68) พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กระทรวงกลาโหม (ศบภ.กห.) รวมถึงทุกเหล่าทัพ เตรียมกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และเครื่องมือพิเศษ เพื่อรับมือพายุ “คัลแมกี” (KALMAEGI) ที่จะเคลื่อนตัวปกคลุมพื้นที่ตอนบนของประเทศไทยในวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ เพื่อป้องกันผลกระทบและช่วยเหลือประชาชนจากน้ำท่วมขัง น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มในพื้นที่เสี่ยง ให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
กองบัญชาการกองทัพไทย สั่งการให้หน่วยขึ้นตรงทุกหน่วย เตรียมความพร้อมด้านกำลังพล ยานพาหนะ เรือท้องแบนติดเครื่องยนต์ และยุทโธปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่ง ส่งผลให้บ้านเรือนและพื้นที่เกษตรได้รับความเสียหาย โดยหน่วยบัญชาการทหารพัฒนาได้จัดตั้ง “ชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว” เตรียมพร้อมเต็มที่
กองทัพบก สั่งการให้ทุกหน่วยเตรียมความพร้อมเต็มกำลัง พร้อมเข้าช่วยเหลือประชาชนทันที เมื่อเกิดภัยพิบัติ โดยเน้นการบูรณาการกับส่วนราชการในพื้นที่ เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็ว และครอบคลุม ซึ่งปัจจุบันกองทัพบกได้ส่งกำลังเข้าช่วยเหลือในหลายจังหวัดที่ประสบอุทกภัย อย่างต่อเนื่อง อาทิ
ภาคกลาง จังหวัดปทุมธานี – กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 4 จัดชุดบรรเทาสาธารณภัยสนับสนุนเทศบาลตำบลสามโคกและตำบลบางโพธิ์เหนือ บรรจุทรายและเสริมคันกั้นน้ำ เพื่อป้องกันน้ำล้นจากการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยาและน้ำทะเลหนุน
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา – กองพันทหารม้าที่ 25 จัดทำสะพานชั่วคราวช่วยประชาชนในพื้นที่ น้ำท่วม ส่วนกองพันทหารม้าที่ 24 ร่วมกับพระสงฆ์และประชาชนบรรจุกระสอบทรายเสริมแนวคันกั้นน้ำ พร้อมสนับสนุนอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ติดตั้งพนังกั้นน้ำสแตนเลสและคลุมแผ่นพลาสติกบริเวณวัดไชยวัฒนาราม เพื่อป้องกันโบราณสถานสำคัญตามแผนเร่งด่วนของจังหวัด
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ – มณฑลทหารบกที่ 22 จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวและช่วยเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงในอำเภอวารินชำราบ ขณะที่มณฑลทหารบกที่ 23 บรรจุกระสอบทรายทำพนังกั้นน้ำในพื้นที่อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น และมณฑลทหารบกที่ 24 ช่วยขนย้ายสิ่งของและทำแนวกั้นน้ำบริเวณ วัดท่าสว่างศรีไพฑูรย์ จังหวัดอุดรธานี หลังอ่างเก็บน้ำห้วยหลวงเอ่อล้น กองทัพบกและศูนย์บรรเทา สาธารณภัยกองทัพบกยืนยันความพร้อมของทุกหน่วยในทุกภูมิภาค เร่งช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลพายุอย่างรอบด้าน พร้อมบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อให้การฟื้นฟูและการกลับสู่ภาวะปกติเป็นไปอย่างรวดเร็วและยั่งยืน
กองทัพเรือ เตรียมความพร้อมของหน่วยเรือบรรเทาสาธารณภัย และยุทโธปกรณ์สำคัญ เช่น เรือผลักดันน้ำ ซึ่งเป็นพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อช่วยระบายน้ำและบรรเทาปัญหาน้ำท่วม ในพื้นที่ลุ่มต่ำ มีการจัดเตรียมกำลังของ ทัพเรือภาคที่ 1, 2 และ 3 รวมถึงฐานทัพเรือกรุงเทพ ฐานทัพเรือสัตหีบ กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามแม่น้ำโขง เพื่อพร้อมออกปฏิบัติการช่วยเหลือทันที เมื่อได้รับการร้องขอ
กองทัพอากาศ สั่งการให้ทุกกองบินเตรียมกำลังพล เครื่องมือ และยานพาหนะสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัย เช่น การขนย้ายสิ่งของ การอพยพประชาชน และการมอบถุงยังชีพ โดยเฉพาะ กองบิน 21, 23, 4, 41 และ 46 ซึ่งได้ร่วมปฏิบัติภารกิจบรรเทาทุกข์ในพื้นที่รับผิดชอบอย่างใกล้ชิด