ประเทศญี่ปุ่น เผชิญปัญหา “หมี” เข้ามาในเขตชุมชน และทำร้ายคนมากขึ้น ล่าสุด พบหมีดำตัวใหญ่เดินเล่นหน้าพิพิธภัณฑ์ จังหวัดอากิตะ ทางรัฐบาลญี่ปุ่นเร่งส่งกองกำลังป้องกันตนเอง ช่วย "ปราบหมี"
วันนี้ (7 พ.ย. 68) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประเทศญี่ปุ่น กำลังเผชิญปัญหา “หมี” ทำร้ายผู้คนในย่านชุมชนและพื้นที่ป่า ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงหลัง ๆ โดยนับตั้งแต่เดือนเมษายนปีนี้ มีรายงาน “หมี” ทำร้ายคนมากกว่า 100 ครั้งทั่วประเทศ มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 13 คน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่จังหวัดอากิตะ และจังหวัดอิวาเตะ ทางตอนเหนือของประเทศ
หลังจากนั้นทางการท้องถิ่นได้ร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง ซึ่งทางรัฐบาลกลางได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันตนเอง ไปช่วยเหลือทางการท้องถิ่นในการจับ “หมี” อย่างเร่งด่วน เนื่องจากชาวเมืองต่างหวาดกลัว ไม่กล้าออกจากบ้านในช่วงกลางคืน หรือเข้าใกล้ชายป่ามาหลายสัปดาห์แล้ว
โดยปฏิบัติการดังกล่าว กองกำลัง JSDF จะช่วยขนส่ง วาง และตรวจสอบกับดักที่ใช้จับหมี แต่หมีเหล่านี้จะถูกกำจัดโดยนักล่าที่ผ่านการฝึกฝน ซึ่งมีอาวุธที่เหมาะกับการใช้กำจัดหมีมากกว่าของทหาร
ทั้งนี้ ทางการท้องถิ่นจังหวัดอากิตะ เผยว่า ปีนี้มีการพบเห็นหมีเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า เป็นกว่า 8,000 ครั้ง ซึ่งทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอากิตะต้องร้องขอความช่วยเหลือจากกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีรายบงานการพบหมี 1 ตัว โผล่เดินเล่นด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ เมืองเซ็มโบกุ จังหวัดอากิตะ เคราะห์ดีขณะนั้นพิพิธภัณฑ์ยังไม่เปิดทำการ จึงไม่มีใครถูกทำร้าย แต่ก็ทำให้ทางพิพิธภัณฑ์ ต้องเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น