ข่าวภาคค่ำ - สถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา ยังน่าห่วง โดยเฉพาะจังหวัดอ่างทอง กระแสน้ำแรงจนไม่สามารถวางกระสอบทรายได้ ชาวบ้านต้องลงไปช่วยกันชลอน้ำ
เป็นภาพขณะชาวบ้าน ทหาร และตำรวจ นำรถมาจอด และพร้อมใจกันลงไปเอาตัวขวาง ต้านกระแสน้ำที่เอ่อล้น เป็นระยะทางยาว 10 เมตร บริเวณหน้าวัดไทรย์นิโครธาราม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา หมู่ 4 ตำบลจรเข้ร้อง อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง เพื่อชลอความแรงของน้ำแล้ววางกระสอบทรายป้องกันน้ำไม่ให้ไหลเข้าพื้นที่ได้สำเร็จ
ขณะที่ อำเภอป่าโมก แนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถูกน้ำกัดเซาะพังทลายเป็นแนวยาวกว่า 10 เมตร ทำให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่หลังชุมชนย่อยที่ 3 หมู่ 2 อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ใกล้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก และยังกัดเซาะขยายวงกว้างเพิ่มขึ้น บ้านเรือนถูกน้ำท่วม เป็นวงกว้าง
และกระแสน้ำเริ่มล้นคลองเข้าพื้นที่รอบโรงพยาบาลป่าโมก เจ้าหน้าที่จึงต้องนำรถแบคโฮเสริมคันดินป้องกันรอบพื้นที่โรงพยาบาล พร้อมเคลื่อนย้ายสิ่งของ อุปกรณ์การแพทย์ และยาจากคลังขึ้นที่สูง เพื่อเตรียมรับมือกับมวลน้ำ
เบื้องต้น พื้นที่จังหวัดอ่างทอง ยังคงมีน้ำท่วม 4 อำเภอ 32 ตำบล 140 หมู่บ้าน คือ อำเภอเมือง, อำเภอป่าโมก, อำเภอวิเศษชัยชาญ และ อำเภอไชโย มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 5,000 หลังคาเรือน
ขยับไปที่จังหวัดสิงห์บุรี ที่บ้านบางพระนอน หมู่ 1 ตำบลทับยา อำเภออินทร์บุรี หลังเขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็น 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้แรงดันน้ำกัดเซาะใต้พนังกั้นน้ำ ขนาดความกว้างประมาณ 2 เมตร น้ำไหลทะลักเข้ามาพื้นที่ชุมชน
ล่าสุด ที่ตำบลทับยา อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี พบรูรั่วขนาดใหญ่ใต้พนังกันน้ำ นายเชนท์ คนชาน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ตำบลทับยา จึงใช้เครื่องสูบระบายน้ำ เปิดทางให้ชาวบ้านยกของมีค่าขึ้นที่สูง บ้านใครมีรถกระบะก็ยกสิ่งของขึ้นท้ายรถ แล้วนำไปจอดบนถนนสาย 311 เส้นสิงห์บุรี-ชัยนาท เนื่องจากเป็นพื้นที่อพยพชั่วคราว
