หนุ่มมาเลย์ขับรถจาก กทม. กลับประเทศ ถูกด่านสกัดตรวจ เจอเคตามีน 75 กิโลกรัม ซุกช่องลับ อ้างรับจ้างขับรถ ได้เงิน 5,000 ริงกิต ไม่รู้มียาเสพติด
วันนี้ (8 พ.ย.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด บช.ปส. สนธิกำลังกับตำรวจภูธรภาค 8 และตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ตรวจยึดยาเคตามีนของกลางน้ำหนักรวมกว่า 75 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 70 ล้านบาท พร้อมจับกุมผู้ต้องหาชาวมาเลเซียได้ที่ด่านตรวจยานพาหนะชุมพร หมู่ที่ 2 ตำบลหงษ์เจริญ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร
โดยการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดตรวจเข้มเพื่อสกัดกั้นการลักลอบขนยาเสพติดผ่านเส้นทางภาคใต้ พบรถยนต์สีดำป้ายทะเบียนมาเลเซีย พฤติกรรมมีพิรุธ จึงเรียกตรวจค้นพบว่าช่องเก็บสัมภาระท้ายรถถูกดัดแปลง เมื่อตรวจด้วยเครื่อง X-RAY พบวัตถุต้องสงสัยจำนวนมาก ภายหลังตรวจอย่างละเอียดพบเป็นเคตามีนบรรจุถุงซีลสุญญากาศ น้ำหนักรวม 75 กิโลกรัม ซุกซ่อนในช่องลับท้ายรถอย่างแนบเนียน
ส่วนผู้ต้องหาทราบชื่อภายหลังคือ MR. TEH WEI YI (เต่อ เว่ย ยี่) อายุ 25 ปี สัญชาติมาเลเซีย ให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากชาวมาเลเซียไม่ทราบชื่อ ให้ขับรถจากกรุงเทพฯ กลับประเทศมาเลเซีย โดยได้รับค่าจ้าง 5,000 ริงกิต แต่ไม่ทราบว่ามีสิ่งผิดกฎหมายอยู่ในรถ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาฐาน “จำหน่ายโดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน” ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.4 ดำเนินคดีตามกฎหมาย
เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามอำนาจหน้าที่โดยชอบ มิได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนของผู้ต้องหา พร้อมเน้นย้ำจะเดินหน้าปราบปรามยาเสพติดข้ามชาติอย่างเข้มข้น เพื่อสกัดกั้นไม่ให้ยาเสพติดแพร่ระบาดเข้าสู่พื้นที่ภาคใต้และภูมิภาคอื่นของประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอความร่วมมือประชาชน หากพบเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน 191 หรือ สำนักงาน ป.ป.ส. โทร. 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อร่วมกันป้องกันและลดปัญหายาเสพติดในสังคมไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจฝากเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการรับฝากของหรือขับรถให้บุคคลแปลกหน้า โดยไม่ทราบที่มาและปลายทางของสิ่งของ เพราะอาจถูกใช้เป็นช่องทางลักลอบขนยาเสพติดโดยไม่รู้ตัว หากพบเห็นพฤติกรรมต้องสงสัยหรือบุคคลที่มีท่าทีผิดปกติ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ทันที เพื่อร่วมกันป้องกันภัยและสร้างสังคมปลอดยาเสพติดอย่างยั่งยืน