บุกรังจับแก๊งสแกมเมอร์ชาวจีน พบใช้นวัตกรรมใหม่  Ai หลอก Ai

บุกรังจับแก๊งสแกมเมอร์ชาวจีน พบใช้นวัตกรรมใหม่ Ai หลอก Ai

View icon 381
วันที่ 9 พ.ย. 2568 | 16.33 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตำรวจแฝงตัวเป็นช่าง บุกรังจับแก๊งสแกมเมอร์ ขนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เผ่นออกจากเขมร ซุกคอนโดฯหรูกลางกรุง ใช้นวัตกรรมใหม่ Ai หลอก Ai ยืนยันตัวตนของธนาคาร อันตรายมาก จากผู้เสียหายกลายเป็นผู้ต้องหาได้ง่าย ๆ

แก๊งสแกมเมอร์ชาวจีน  วันนี้ (9 พ.ย.68) ตำรวจนครบาล นำหมายค้นศาลอาญาที่ ค.124/2568 ลงวันที่ 8 พ.ย. 68 เข้าตรวจค้นคอนโดหรูภายใน ซ.สุขุมวิท 16 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย จ.กรุงเทพ

สำหรับคดีนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากปฏิบัติการ “โลกล้อมแก๊งสแกมเมอร์” เจ้าหน้าที่จากหลายประเทศเข้าปฏิบัติการในประเทศกัมพูชาจนเกิดความสั่นคลอนเป็นผึ้งแตกรัง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการมอบหมายให้ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ติดตามสถานการณ์ทางการข่าวอย่างใกล้ชิด กระทั่ง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้สืบทราบเบาะแส พบว่ามีกลุ่มบอสหนุ่มชาวจีนรายใหญ่หลายราย ได้หลบหนีจากประเทศกัมพูชาเข้ามาหลบซ่อนตัวในประเทศไทย

ตำรวจนครบาล ลงพื้นที่สืบสวนจนพบกลุ่มชาวจีนต้องสงสัย 4 ราย แอบขนอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนมาก พร้อมกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แปลก ๆ เข้าไปในคอนโดหรูภายใน ซ.สุขุมวิท 16 ซึ่งต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่แฝงตัวเป็นช่างอาคารจนพบว่ามีการตั้งห้อง “วอร์รูม” เป็นฐานบัญชาการอยู่ภายในคอนโดหรูดังกล่าว และมีการมั่วสุมยาเสพติดด้วย

วันนี้ (9 พ.ย. 68) เวลา 12.30 น. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมหมายค้นเข้าตรวจสอบ ห้องสูทหรูในคอนโดชื่อดัง โดยใช้ยุทธวิธีเข้าจับอย่างฉับพลัน จนทำให้กลุ่มผู้ต้องหาไม่ทันตั้งตัว และไม่สามารถทำลายพยานหลักฐานในคอมพิวเตอร์ได้

ผลการตรวจค้นพบห้อง “วอร์รูม” มีคอมพิวเตอร์ 4 เครื่อง ยังคงเปิดค้างไว้ ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็น “การเงินของแก๊งสแกมเมอร์” ตรวจสอบพบ “นวัตกรรมใหม่” โดยการใช้ Ai หลอก Ai โดยการเอาภาพนิ่งของ “เหยื่อ” ผู้เสียหายมาเข้าระบบ Ai เพื่อให้หันหน้าซ้าย ขวา กะพริบตา อ้าปาก จากนั้นนำคลิปที่ได้จากการทำ Ai ดังกล่าว นำไปหลอกกับระบบ KYC ของธนาคารและเงินดิจิทัล ซึ่งเป็นกระบวนการที่อันตรายมากเพราะทำให้ ผู้เสียหายกลายเป็นผู้ต้องหาได้อย่างง่ายดาย

จากการตรวจสอบ พบโทรศัพท์ 60 เครื่อง ตรวจพบยาเสพติดประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 2 ถุง พบตัวผู้ต้องหาชาวจีน 4 ราย  อายุระหว่าง 21-29 ปี ตรวจสอบพบว่าเพิ่งเดินทางมาจากประเทศกัมพูชา ในชั้นจับกุมถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกันเป็นอั้งยี่ , มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ  และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนข้อหาอื่นๆ อยู่ระหว่างการขยายผล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง