2 ผู้บริหารของสำนักข่าวบีบีซีลาออกจากตำแหน่ง หลังถูกกล่าวหาว่ามีความลำเอียง กรณีตัดต่อคำพูดของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ออกอากาศ
(10 พ.ย.68) ผู้บริหารสูงสุดของ BBC และหัวหน้าฝ่ายข่าวได้ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากถูกกล่าวหาว่า เป็นองค์กรสื่อที่ไม่เป็นกลาง เนื่องจาก มีการตัดต่อคำปราศรัยของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในสารคดีของสถานี
การลาออกดังกล่าวมีขึ้นหลังจากหนังสือพิมพ์เทเลกราฟ ได้ออกมาเปิดโปงรายงานภายในของบีบีซี ที่ชี้ให้เห็นถึงความบกพร่องในการรายงานข่าว ซึ่ง 1 ในนั้นมีกรณีเรี่องการตัดต่อคำปราศรัยของทรัมป์ในสารคดีเชิงสืบสวน "พาโนรามา" (Panorama) เมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา
โดยในสารคดี มีการตัดต่อคำปราศรัยของทรัมป์ ทำให้เขาดูเหมือนกำลังสนับสนุนให้มีการจลาจลที่รัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564
คำพูดเดิมของทรัมป์ พูดเอาไว้ว่า "ไปให้กำลังใจวุฒิสมาชิกและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชายหญิงผู้กล้าหาญของเรา" แต่ ปรากฏว่า คำพูดที่ถูกเผยแพร่ในสารคดีกับเป็นคำว่า "เราจะเดินลงไปที่รัฐสภา" และ "สู้ให้ถึงที่สุด" ซึ่งเป็นคำพูดจากคนละช่วงเวลาในคำปราศรัย ทำให้ BBC ได้รับวิพากษ์วิจารณ์ จนทำให้เกิดข้อกล่าวหาเรื่องความลำเอียง
ทิม เดวี ซึ่งเป็นผู้บริหารของ BBC ตั้งแต่ปี 2020 ก็ได้ออกมาปกป้ององค์กร บอกว่า แม้การทำข่าวของ BBC จะได้รับการยอมรับว่าเป็นมาตรฐานระดับโลก แต่เขาก็ยอมรับว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้นและเขาต้องรับผิดชอบสูงสุด
ทิม เดวี ผู้อำนวยการใหญ่บีบีซี ไม่ได้ลาออกเพียงคนเดียว อีกคนคือ เดโบราห์ เทิร์นเนสส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบีบีซี นิวส์ เธอระบุในอีเมลถึงพนักงานยืนยันว่า "ข้อกล่าวหาที่ว่าบีบีซี นิวส์ มีอคติเชิงสถาบันนั้นไม่เป็นความจริง"
แหล่งข่าวระบุว่า การตัดสินใจลาออกของ ทิม เดวี ผู้อำนวยการใหญ่ BBC สร้างความตกใจให้แก่คณะกรรมการ BBC อย่างมาก โดยเขาจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปอีก 2-3 เดือนระหว่างการสรรหาผู้บริหารคนใหม่
เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก ทิม เดวี ผู้บริหารสูงสุดของ BBCลาออกจากตำแหน่ง ประธานาธิบดีสหรัฐฯโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ได้โพสต์ขอบคุณ หนังสือพิมพ์ The Telegraph ที่ "ได้เปิดโปง 'นักข่าวที่ฉ้อฉล' เหล่านี้"