ห้องข่าวภาคเที่ยง - ชาวบ้านพื้นที่ชายแดน อพยพไปบางส่วน หวั่นมีการปะทะกันอีก แต่ก็ถือเป็นความชอบธรรมของไทย ที่กัมพูชาทำผิดสัญญาสันติภาพ ต้องรีบเข้าโจมตีและผลักดันทหารกัมพูชา ยึดคืนประสาทตาควาย
สถานการณ์ชายแดนด้านอำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดบาดเจ็บ 4 นาย และยังมีการยิงปืนเล็กยั่วยุด้วย ทำให้เมื่อคืนนี้นอนไม่หลับ คอยเฝ้าระวังกลัวจะมีการปะทะเกิดขึ้น ซึ่งก็พร้อมอพยพทันที เพราะนำเสื้อผ้าของใช้ไว้ในรถเตรียมพร้อมอยู่แล้ว
ขณะที่ อดีตทหารพราน มองว่ากัมพูชาทำสงครามแบบกองโจรในยุคเขมรแดง แม้เราจะยุติกันไปแล้ว แต่ทางกัมพูชา ยังไม่หยุด ยังคงมีเป้าหมายที่จะทำให้ทางไทยเราเสียหายไปเรื่อย ๆ เมื่อไทยเผลอ จะแทรกซึมเข้ามาวางทุ่นระเบิด เหตุการณ์ที่ทหารไทยเหยียบกับระเบิดแล้วขาขาดในครั้งนี้ ถือว่าเป็นโอกาสทองของไทยที่เขาทำผิดสัญญาสันติภาพ มันเป็นความชอบธรรมที่ต้องเข้าทำการโจมตี และผลักดันทหารกัมพูชา ยึดคืนประสาทตาควาย กลับคืนมา
เช่นเดียวกับ ชาวบ้านพื้นที่ชายแดนหมู่บ้านภูมิซรอล ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นหมู่บ้านชายแดน หมู่บ้านสุดท้าย เชิงเขาพระวิหาร ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ชาวบ้านแห่งนี้ พากันนอนไม่หลับ เฝ้าระวัง รอฟังเสียงปืนใหญ่ที่จะดังขึ้นจากฝั่งกัมพูชา และจะได้อพยพเพื่อความปลอดภัย แต่เมื่อคืนมีชาวบ้านกว่า 100 ครอบครัว ที่เก็บข้าวของไว้ ก่อนหน้านี้ไม่ไว้วางใจกัมพูชา ได้เก็บข้าวของอพยพไปแล้วบางส่วน
ขณะที่หลายคนเสียใจและสงสารลูกหลานที่เป็นทหาร เพราะช่วงสับเปลี่ยนกำลัง จะเข้ามาพูดคุยกับชาวบ้านชายแดนจนสนิทกับชาวบ้าน เชื่อว่าเป็นระเบิดใหม่ ที่กัมพูชานำมาวาง เพื่อทำร้ายทหารไทย อยากให้ไทยยกเลิกความสัมพันธ์ทั้งหมด เลิกเชื่อ เลิกสนับสนุน และจัดการชายแดนให้สงบสิ้นซาก ตามวิถีของทหาร เพราะกัมพูชาไม่มีความซื่อสัตย์มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน