“กาแฟไทย” พืชเศรษฐกิจมูลค่าสูง ช่วยอนุรักษ์ป่า ลดปัญหามลพิษภาคเหนือ

“กาแฟไทย” พืชเศรษฐกิจมูลค่าสูง ช่วยอนุรักษ์ป่า ลดปัญหามลพิษภาคเหนือ

View icon 73
วันที่ 11 พ.ย. 2568 | 16.13 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เศรษฐา" หนุนปลูก "กาแฟ" แบบอนุรักษ์ เพิ่มพื้นที่ป่า เพิ่มรายได้ชุมชน ลดคนย้ายถิ่น ช่วยแก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนืออย่างยั่งยืน

เมื่อลมหนาวมาเยือน ภาคเหนือของไทย ต้องเผชิญกับปัญหา หมอกควัน ไฟป่า มลพิษ PM 2.5 วนเวียนทุกปี ส่วนหนึ่งเกิดจากป่าที่หายไป วันนี้ (11พ.ย.68) นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี จึงแบ่งปันประสบการณ์เมื่อครั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ภาคเหนือบ่อยครั้ง เห็นถึงปัญหาที่คนไทยต้องเผชิญ และ มองเห็นแนวทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนได้ คือ การสร้างอาชีพควบคู่กับการอนุรักษ์ป่า โดยเฉพาะการปลูก "กาแฟ"

มีข้อมูว่า การปลูกกาแฟ เป็นส่วนสำคัญของการอนุรักษ์ป่าในภาคเหนือมากกว่า 3 ทศวรรษ ลดการย้ายถิ่นฐาน ด้วยการสร้างอาชีพและรายได้ที่มั่นคงให้กับชุมชน กลายป็นแม่เหล็กดึงดูดให้คนหนุ่มสาวกลับคืนบ้านเกิด เพื่อสานต่ออาชีพเกษตรกรรมได้

ทั้งยังช่วยลดการทำลายป่า ด้วยระบบการเกษตรที่เน้นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ที่ช่วยเพิ่มมูลค่ากาแฟได้ 3-5 เท่าตัว (จาก 70 บาท เป็น 210-350 บาท/กิโลกรัม) นับว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูง

ขณะที่ ทางสมาคมกาแฟพิเศษ (specialty coffee) ไทย ให้ข้อมูลว่า ตลาดกาแฟพิเศษไทยมีมูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาทต่อปี รวมตลาด ecosystem จนถึงธุรกิจร้านกาแฟ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และมีแนวโน้มเติบโต ต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นการส่งออกไปยังประเทศในยุโรป สหรัฐอเมริกา และเอเชีย-แปซิฟิก

ดังนั้น นายเศรษฐา จึงเชื่อมั่นว่า การเปิดตัวศูนย์การเรียนรู้กาแฟพิเศษครบวงจร ที่เป็นความร่วมมือกันระหว่าง BEANS แสนสิริ และไร่แสงชัย เพื่อสร้างแรงกระเพื่อมเศรษฐกิจฐานราก จะช่วยแก้วิกฤติยอดดอยไปพร้อมกันได้

“แม้จะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว  แต่ในฐานะประชาชนคนไทยคนนึง ผมก็จะยังคงเดินหน้าสนับสนุนทุกงานที่สร้างความยั่งยืน และไม่หยุดที่จะช่วยเหลือประชาชนคนไทยต่อไปครับ” นายเศรษฐา กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง