พาณิชย์จังหวัดราชบุรี ปรับ 2 พันบาท ร้านค้าไม่ติดป้ายราคา พร้อมเรียกแจงขายของแพงให้อินฟลูฯ เกาหลีใต้

พาณิชย์จังหวัดราชบุรี ปรับ 2 พันบาท ร้านค้าไม่ติดป้ายราคา พร้อมเรียกแจงขายของแพงให้อินฟลูฯ เกาหลีใต้

View icon 5.5K
วันที่ 11 พ.ย. 2568 | 17.38 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ท้าทายระบบ พาณิชย์จังหวัดราชบุรี สั่งปรับ 2 พันบาท ร้านค้าตลาดน้ำดำเนินสะดวกไม่ติดป้ายราคา พร้อมเรียกแจงขายกางเกงช้างแพงให้อินฟลูฯ เกาหลีใต้ ก่อนพิจารณา ย้ำ มีโทษปรับไม่เกิน 140,000  บาท หรือจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ

จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก คัลแลนพี่จองแฟนคลับ ได้โพสต์เรื่องราว พร้อมกับลงคลิปภาพวีดีโอที่อินฟลูเอนเซอร์ชาวเกาหลีใต้ทั้งสองคนไปเที่ยวตลาดน้ำดำเนินสะดวก อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี และถูกแม่ค้าโก่งราคาขายกางเกงช้าง 1,000 บาท เมื่อต่อราคาให้เหลือ 800 บาท แต่แม่ค้ายืนยันลดได้แค่ 100 บาท เหลือราคา 900 บาท ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีเหล่าแฟนคลับและผู้ติดตามเพจเข้ามาแสดงความคิดเห็น และต่อว่าแม่ค้าที่ขายเสื้อและกางเกงช้างให้ในราคาแพง จนทำให้เกิดไวรัลในโลกออนไลน์

ล่าสุดวันนี้ (11 พ.ย.68) นายธรณินทร์  บรรยงวรพินิจ พาณิชย์จังหวัดราชบุรี พร้อมด้วยนางกาญจน์กุระ ฮัยสคาเนน  ท่องเที่ยวและกีฬา จ.ราชบุรี, นายบุญสืบ ขลิบเพ็ง ผอ.กลุ่มส่งเสริมศิลปะวัฒนธรรมจังหวัดราชบุรี, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดำเนินสะดวก และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว เข้าไปตรวจสอบที่ร้านขายเสื้อผ้าของนางประภาพร ซึ่งเป็นร้านต้นเหตุตั้งอยู่ริมคลองดำเนินสะดวก โดยนางประภาพร ยอมรับว่า ในวันเกิดเหตุมีชายชาวต่างชาติ 2 คน มาซื้อเสื้อกับกางเกงช้างในราคา 900 บาทจริง แต่เสื้อนั้นเป็นเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวบนเสื้อปักรูปมังกร จึงมีราคาแพงตัวละ 500 บาท ส่วนกางเกงช้างก็มีหลายเนื้อผ้าซึ่งไม่แน่ใจว่าลูกค้าซื้อเนื้อผ้าแบบไหนไป เพราะเหตุเกิดตั้งแต่เดือนต.ค.ที่ผ่านมา แต่ก็ยอมรับว่าทางร้านขายราคาแพง และไม่ได้มีการติดป้ายบอกราคา ทางเจ้าหน้าที่จึงเปรียบเทียบปรับในราคา 2,000 บาท และยังมีในส่วนอื่นๆ อีกที่ทางร้านจะต้องนำเอกสารไปชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่  ซึ่งนางประภาพรได้กล่าวขอโทษกับ คัลแลน พี่จอง ผ่านสื่อและยินดีจะโอนเงินคืนทั้งหมด โดยยินดีจะยกเสื้อกับกางเกงชุดนั้นให้ด้วย
 
ด้านนายธรณินทร์ กล่าวว่า หลังได้รับเรื่องร้องทุกข์ ทางหน่วยงานได้ร่วมกันในการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าร้านค้าไม่ได้ปิดป้ายแสดงราคา ซึ่งเป็นความผิดมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท แต่วันนี้เราปรับเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท  ส่วนราคาของที่แพงเกินสมควร ก็ได้แจ้งให้ทางเจ้าของร้านเข้าไปชี้แจงถึงต้นทุน และราคาต่างๆ เพื่อประกอบการพิจารณา เพราะในมาตรา 29 ระบุไว้ว่า การจำหน่ายสินค้าในราคาที่สูงเกินสมควร จะมีโทษปรับไม่เกิน 140,000  บาท หรือจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนของร้านค้าอื่นๆ รวมทั้งค่าเรือด้วย ทางเจ้าหน้าที่ได้มาประชาสัมพันธ์ให้มีการปิดป้ายแสดงราคาตลอด จึงอยากฝากเตือนให้ผู้ประกอบการทุกท่าน ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ติดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน ในส่วนของราคาก็ให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด

ขณะที่ นางกาญจน์กุระ เปิดเผยว่า ตลาดน้ำดำเนินสะดวก ยังเป็นชุมชนที่มีวิถีชีวิตที่เป็นอัตลักษณ์ แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่ค่อยดี  ทำให้การค้าขายสินค้านั้นยังไม่ค่อยดี แต่หากนักท่องเที่ยวพบร้านไหนขายราคาแพงหรือไม่ติดป้ายแสดงราคาก็ไม่ควรเข้าไปซื้อ ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าทุกคนควรจะทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ก็จะเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของตลาดน้ำดำเนินสะดวก และจะทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวอย่างแน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง