เช้านี้ที่หมอชิต - เมื่อวานนี้ คนการเมืองหลายคนออกมาโพสต์ข้อความส่วนตัวผ่านเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับกรณีที่ทหารไทยเหยียบกับระเบิด จนได้รับบาดเจ็บอีก
คนแรกคือ นางอังคณา นีละไพจิตร สว. และอดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่เคยมีกระแสดรามา เรื่องการออกมาเรียกร้องสิทธิมนุษยชนก่อนหน้านี้ ล่าสุด ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความคิดเห็น ภายหลังที่ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด จนขาขาดเป็นรายที่ 7 ว่า "การลักลอบรื้อลวดหนามเพื่อเข้ามาฝังทุ่นระเบิดใหม่ถือเป็นการผิดข้อตกลงปฏิญญาร่วมเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ที่ผ่านมา และขัดต่ออนุสัญญาออตนาวา พร้อมได้แสดงความเสียใจต่อผู้เสียหาย และครอบครัว"
ด้าน สส.รังสิมันต์ โรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก มีข้อความว่า การกระทำของฝั่งกัมพูชา ทำทั้งหมดนี้ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจเรื่องสแกมเมอร์ เพื่อเปลี่ยนแปลงความสนใจของไทยในเรื่องสแกมเมอร์มาเป็นปัญหาความขัดแย้งตามแนวชายแดน กัมพูชาหวังใช้ภาพลักษณ์ความเป็นประเทศเล็ก ที่ตกเป็นเหยื่อ เพื่อหลอกลวงคนทั่วโลกว่าฝ่ายไทยรังแกกัมพูชา ทั้งนี้เราต้องไม่ลืมว่า ฝ่ายกัมพูชาติดตามข่าวสารจากฝั่งไทยอย่างใกล้ชิด และใช้ความพยายาม ใช้ความได้เปรียบตรงนี้ เพื่อทำให้เรื่องราวของสแกมเมอร์ถูกลดความสำคัญลงไป
ขณะที่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคไทยสร้างชาติ แสดงความเห็นอย่างดุดันผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า "ทนไม่ไหว ขอพูดหน่อยนะ" พร้อมโจมตีไปที่การลงนามในสัญญาสันติภาพก่อนหน้านี้ว่า "ไร้ประโยชน์" และแสดงความไม่เชื่อถือต่อผู้นำประเทศเพื่อนบ้าน ไม่กี่วันมานี้ไม่เห็นด้วยเลยที่ไปลงนามสัญญาสันติภาพ เพราะนอกจากเราจะไม่ได้ประโยชน์อะไร สุดท้ายเอาระเบิดมาวางใหม่
พร้อมตั้งคำถามถึงรัฐบาลในการรับมือกับมหาอำนาจและประเทศเพื่อนบ้านที่แตกต่างกัน พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความเด็ดขาดเสียที พร้อมถามว่าจะต้องรออีกกี่รายถึงจะเด็ดขาด เห็นใจทหาร
นอกจากนี้ยังตั้งคำถามกองทัพ ว่าพร้อมหรือยังที่ต้องเด็ดขาดเสียที ถ้าพร้อม…รออะไรครับ
และเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกปฏิญญาสันติภาพที่เพิ่งลงนามไป ไม่ใช่แค่เพียงการประท้วงเหมือนที่เคยทำมาหลายครั้ง โดยระบุว่าการประท้วงเป็นเพียง "ปาหี่" และเน้นย้ำว่ารัฐบาลสามารถดำเนินการยกเลิกได้ทันที
