ห้องข่าวภาคเที่ยง - ชาวบ้านชายแดนไทย-กัมพูชา อีสานใต้ เก็บเสื้อผ้าพร้อมอพยพ หลังนายกรัฐมนตรี ยกเลิกปฏิญญาทุกข้อ พร้อมจัดชุดลาดตระเวนเพื่อตรวจสอบคนแปลกหน้าที่อาจเป็นไส้ศึก
การตัดความสัมพันธ์ทุกรูปแบบกับกัมพูชา ของนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดน หมู่บ้านภูมิซรอล ตำบลเสาธงขัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการตัดความสัมพันธ์ และอยากให้ทหารจัดการให้เสร็จ พร้อมในการให้ความร่วมมือ เก็บเสื้อผ้าพร้อมเตรียมการอพยพแล้ว
ด้าน ฝ่ายปกครองในพื้นที่ชายแดน ยังได้เข้าตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรง ของหลุมหลบภัย เพื่อให้พร้อมใช้งาน หากเกิดกรณีฉุกเฉิน พร้อมจัดชุดลาดตระเวนดูแลภายในหมู่บ้านชายแดน หากพบเห็นคนแปลกหน้า ทั้งกลางวัน และช่วงเวลากลางวคืน ให้เข้าสอบถาม ที่ไปที่มา ว่าเป็นใคร มาจากไหน กำลังจะไปไหน โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน เพราะอาจจะเป็นใส่ศึก ที่แอบเข้ามาถ่ายภาพจุดที่มั่น ถ่ายภาพด้านความมั่นคง ส่งไปให้ฝ่ายกัมพูชา ก็ขอให้ควบคุมตัว แจ้งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ หรือผู้นำชุมชน ตำบล ปกครองอำเภอ เข้าดำเนินการต่อทันที
ไปดูบรรยากาศการค้าชายแดนด้านช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ พบว่าเป็นไปอย่างเงียบเหงา ร้านค้ายังคงเปิดค้าขายตามปกติ และต่างรู้สึกระแวงว่าจะเกิดสงครามอีกรอบ ทั้งนี้ต่างต้องการให้ทหารไทยรบ และจัดการให้จบ ชาวบ้านชายแดนตอนนี้เดือดร้อน ทำมาหากินก็ไม่ได้ทำสักที ไปไร่นาก็ลำบาก กัมพูชาไม่สนใจรักษาสัญญาอะไรทั้งสิ้น พูดอย่างทำอีกอย่าง หากมีการปะทะเกิดขึ้นก็พร้อมอพยพทันที
ส่วนที่จังหวัดบุรีรัมย์ หลังสถานการณ์ความตึงเครียดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา กลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม โรงพัก 5 แห่ง พื้นที่ชายแดน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ในการทำหน้าที่ปกป้องและดูแลความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตรวจสอบตามแผนพิทักษ์ส่วนหลัง หลุมหลบภัยที่สร้างไว้ และเส้นทางหนี ต่างจากการทำหน้าที่ของทหารที่ต้องดูแลผืนแผ่นดินไทย ซึ่งทุกฝ่ายมีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา แม้จะยังไม่มีเหตุการณ์อะไรเป็นพิเศษในตอนนี้ก็ตาม