สนามข่าว 7 สี - แม่หลั่งน้ำตาวอนทางการช่วยนำศพลูกสาวกลับบ้าน หลังถูกหลอกไปเป็นแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชาเสียชีวิตปริศนา
นายอรรถพล ไตรศรี สส.พังงา เขต 1 พร้อมคณะ เดินทางเข้าไปพบ นางอรอนงค์ อายุ 46 ปี ผู้ป่วยติดเตียง เลี้ยงหลานอายุ 3 เดือนเศษ ภายในบ้านพัก ตำบลคลองเคียน อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา หลังเมื่อคืนวันจันทร์ นางอรอนงค์ ได้รับข่าวร้ายจากลูกเขย ว่า นางสาวสุดา อายุ 26 ปี เกิดอาการชักเกร็งหมดสติ เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในปอยเปต ประเทศกัมพูชา จากนั้นติดต่อลูกเขยไม่ได้อีก
แม่เล่าทั้งน้ำตา รู้เพียงว่าลูกทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ที่กัมพูชามานานเกือบ 1 ปี ต้นปีกลับมาอยู่บ้าน พานายวายุ แฟนหนุ่มกลับมาด้วย จนเมื่อเดือนกรกฎาคม ลูกสาวคลอดลูก สิงหาคม ลูกเขยก็กลับไปทำงาน ต่อมาติดต่อให้ลูกสาวตามไป พร้อมขู่ด้วยว่าถ้าไม่ไปจะทอดทิ้ง
เมื่อวันเสาร์ ลูกสาวติดต่อมาหา เล่าว่า ถูกแฟนหนุ่มหลอกให้ไปทำงานสแกมเมอร์ หากไม่ได้ยอดก็จะถูกทำร้าย ตอนนี้กลุ้มใจอยากได้ศพของลูกสาวกลับมาทำพิธีทางศาสนา
น้องสาวผู้เสียชีวิต เล่าว่า พี่สาวหนีไปทำงานที่ปอบเปต ทางช่องทางธรรมชาติ เป็นแอดมิน หลังพี่สาวเสียชีวิต เธอแอดไลน์ไปคุยกับบริษัทที่พี่สาวไปทำงานแนะนำให้เธอไปลงบันทึกประจำวัน ติดต่อหน่วนทหารที่อรัญประเทศ หาทางนำศพกลับ พร้อมขู่ไว้ว่า ถ้าเป็นข่าวดังจะทำลายศพให้ไร้ร่องรอย ส่วนพี่เขย บริษัทอ้างว่าปล่อยกลับมาแล้ว แต่เธอไม่เชื่อเพราะติดต่อไม่ได้
นายอรรถพล ได้ประสานไปยัง สภ.โคกกลอย ให้ช่วยตรวจสอบการข้อเท็จจริงลูกเขย หากพบว่า นางสาวสุดาเสียชีวิตจริง จะประสานกระทรวงแรงงาน และกระทรวงต่างประเทศ หาทางนำศพกลับมาอีกครั้ง
ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน ภาคตะวันออก IMF โพสต์ถึงเหตุการณ์ที่ นางสาวสุดาเสียชีวิตในฝั่งกัมพูชา ระบุว่า เคสนี้ปิดข่าวเงียบ ไม่รู้ว่าศพอยู่ที่ไหน สาเหตุเกิดจากถูกเครื่องช็อกไฟฟ้าจนหมดสติ แล้วก็ปล่อยให้ตาย
คุณเบิร์ด ผู้ประสานงานศูนย์ฯ กำลังหาความจริง ว่าแฟนหนุ่มอยู่ที่ไหน พร้อมจะประสานนำร่างผู้เสียชีวิตกลับประเทศไทย ฝากให้ผู้ที่มีข้อมูลเบาะแส ทักหาด่วน ผ่านทางเพจฯ