เช้านี้ที่หมอชิต - กองกำลังจันทบุรี-ตราด จับกุมแรงงานชาวกัมพูชา พยายามหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย 108 คน โดยมีชาวไทยเป็นผู้นำพาเข้าประเทศ
จับชาวกัมพูชาเต็มรถบรรทุก 108 คน ลอบเข้าเมือง
ชุดเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี และชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 2 สกัดจับกลุ่มแรงงานชาวกัมพูชาที่ลักลอบขึ้นรถบรรทุก พยายามผ่านฐานปฏิบัติการที่ 2 สี่แยกบ้านสวนส้ม ได้ 108 คน แบ่งเป็นชาย 70 คน และหญิง 38 คน ในจำนวนนี้ เป็นเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี 5 คน โดยมี นายปัญญา อายุ 43 ปี เป็นผู้นำพาเข้าประเทศ
สอบสวนเบื้องต้นพบว่าผู้ถูกจับกุมทั้งหมดมีความต้องการเดินทางมาทำงานในประเทศไทย ทั้งในพื้นที่จังหวัดระยอง ชลบุรี และกรุงเทพฯ ซึ่งยอมจ่ายค่าหัวเข้าประเทศไทย ตามระยะที่ต้องการเดินทาง ตั้งแต่ 5,000-8,000 บาท หลายคนเคยเป็นแรงงานที่ทำงานในประเทศไทยมาก่อน แต่ได้เดินทางกลับกัมพูชาช่วงที่ประเทศกัมพูชาประกาศให้เดินทางกลับเข้าประเทศ เพราะปัญหาชายแดนช่วงที่ผ่านมา แต่เมื่อกลับไปพบว่าลักษณะงานไม่เหมือนกัน จึงลักลอบเข้าเมือง เพื่อกลับมาทำงานอีกครั้ง
โดยทหารชุดจับกุม ได้ควบคุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.สะตอน และประสานไปยังตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
จากนั้น ได้ควบคุมตัวทั้งหมดไปยังด่านถาวรบ้านแหลม ตำบลเทพนิมิต อำเภอโป่งน้ำร้อน เพื่อจะรีบผลักดันทั้งหมดกลับฝั่งกัมพูชา โดยอยู่ระหว่างรอคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาชั้นสูง ระดับผู้บัญชาการทหารเรือ หรือคำสั่งของนายกรัฐมนตรี เพื่ออนุมัติขอเปิดประตูด่านเพื่อผลดันกลับ
ขณะเดียวกัน ฝั่งของกัมพูชามีเจ้าหน้าที่นำรถมาสแตนด์บายรอรับแรงงานทั้งหมดกลับเข้าประเทศ
จับหญิงไทย 5 คน ลอบข้ามแดน จ.สระแก้ว
ขณะที่กองร้อยทหารพรานที่ 1202 และกำลังพลจากกรมทหารราบที่ 9 จากจังหวัดกาญจนบุรี ที่ประจำจุดตรวจ บ้านป่าไร่ ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว พบหญิงชาวไทย 5 คน หลบอยู่ในบริเวณป่า ขณะออกลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จึงควบคุมตัวไว้
จากการสอบปากคำเบื้องต้น ทราบว่า ทั้ง 5 คน ให้การตรงกันว่าถูกหลอกลวงไปทำงานในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา แต่ภายหลังพบว่าไม่เป็นไปตามที่ตกลงไว้ จึงอาศัยจังหวะหลบหนีข้ามกลับมายังฝั่งไทยเพื่อเอาชีวิตรอด เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคัดกรองและให้ความช่วยเหลือต่อไป