วิกฤตน้ำท่วม ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท

View icon 82
วันที่ 13 พ.ย. 2568 | 16.03 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - สถานการณ์น้ำท่วมยังวิกฤตในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา หลังเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำในปริมาณมากอย่างต่อเนื่อง และปีนี้พื้นที่ลุ่มต่ำในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับผลกระทบหนัก

เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ระบายน้ำในปริมาณ 2,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อย่างต่อเนื่อง ทำให้พื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอย่าง อำเภอสรรพยา ได้รับผลกระทบ น้ำท่วมขยายวงกว้าง ประชาชนได้รับความเดือดร้อนรวมกว่า 4,600 หลังคาเรือนแล้ว บางบ้านน้ำท่วมสูงถึง 2 เมตร 

กู้ภัยช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางออกจากพื้นที่ประสบอุทกภัย อย่าง ตำบลโพนางดำออก และ ตำบลหาดอาษา ต้องเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เพื่อนำตัวออกไปรักษาที่โรงพยาบาลสรรพยา เพราะระดับน้ำสูงขึ้นเรื่อย ๆ เป็นอันตรายกับผู้ป่วย ผู้สูงอายุ

ไม่เฉพาะคนที่เดือดร้อน ไก่ชนและไก่พื้นเมืองสุดรักสุดหวงของชาวบ้าน ก็ต้องอพยพหนีน้ำท่วมขึ้นมาอยู่ในที่สูง ทำเพิงพักเลี้ยงอยู่ริมถนนทางหลวง หลังจากที่คันดินกั้นน้ำใน ตำบลบางหลวง อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ต้านทานกระแสน้ำไม่ไหว พังทลาย น้ำท่วมสูงมากกว่า 1 เมตร ชาวบ้านต้องขนย้ายข้าวของ สัตว์เลี้ยง หนีน้ำท่วม

เช่นเดียวกับที่ จังหวัดอ่างทอง ฝนตกหนักทั้งคืน ซ้ำเติมสถานการณ์น้ำให้หนักขึ้นไปอีก เจ้าของบ้านร่ำไห้ ขนย้ายข้าวของไม่ทัน ในพื้นที่ ตำบลโพสะ อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง ฝนตกหนัก ทำให้น้ำหลากเข้าท่วมบ้านอย่างรวดเร็ว น้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร

ชาวบ้านสะดุ้งตื่นกลางดึก ลงมาดูแมวที่เลี้ยงไว้ในกรงในบ้าน ถูกน้ำท่วมสูง ก็ช่วยกันกับลูกสาวขนย้ายข้าวของ เครื่องใช้ไฟฟ้า บางส่วนขนหนีไม่ทัน พังเสียหาย

ที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปีนี้น้ำท่วมหนักสุด และยาวนานกว่า 4 เดือนแล้ว ที่ อำเภอเสนา น้ำท่วมสูงเกือบมิดหลังคา ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังฝนตกหนักเมื่อคืน

ลุงละเอียด ตำบลบ้านกระทุ่ม อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บ้านอยู่ริมแม่น้ำน้อย อยู่เพียงลำพังภายในบ้านไม้สองชั้น อายุเกือบ 80 ปี ที่ขณะนี้ถูกน้ำท่วมถึงชั้นบน ลุงต้องเปิดหลังคาและขึ้นไปใช้ชีวิตอยู่บนนั้นนานกว่า 2-3 สัปดาห์แล้ว ใช้ผ้าขึงกันแดด และนำฟูกที่นอนทำจากกะลามะพร้าวมาคลุมไว้เพื่อกันฝน กลางคืนไม่มีไฟฟ้าใช้เพราะไฟถูกตัดไปแล้ว ลุงต้องจุดตะเกียงเพื่อส่องสว่าง และทำอาหารกินเองบนหลังคา เดือดร้อนสุดคือเวลาเข้าห้องน้ำ ต้องใช้เรือพายออกไปไกล ๆ น้ำท่วมหนักแต่ลุงยืนยันจะสู้กับน้ำ ไม่ย้ายหนีออกไปไหน เพราะเป็นห่วงข้าวของในบ้าน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง