ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ลุงอายุ 65 ปี จะตัดต้นไทรอายุ 100 ปี ออก แต่พลาดถูกล้มทับร่างแหลก
วันที่ 13 พ.ย.68 เวลาประมาณ 10.00 น. พ.ต.ต.ศรีเดช สุวรรณ์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเชียงราย ได้รับแจ้งเหตุต้นไม้ล้มทับคนเสียชีวิต พื้นที่บ้านโป่งเกลือใต้ ม.18 ต.ดอยลาน อ.เมืองเชียงราย จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับแพทย์เวร รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ หน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลดอยลาน สมาคมกู้ชีพธรรมนันท์เชียงราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำตู้ยามจำบอน
ที่เกิดเหตุ พบร่างผู้เสียชีวิตถูกต้นไทรขนาดใหญ่ที่ถูกตัดโค่นและล้มทับใส่ตัวเองเสียชีวิต ทราบชื่อต่อมาว่า นายจรัญ อายุ 65 ปี มีชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างพากันมามุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก ชุดกู้ชีพเทศบาลตำบลดอยลานไปถึงที่เกิดเหตุ แต่ไม่สามารถนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้ เพราะต้นไม้มีขนาดใหญ่มาก ต้องประสานขอรถแบ็กโฮมาช่วยยกต้นไม้ออกจากร่างผู้เสียชีวิตเสียก่อนจึงสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตลงมาได้ จากนั้นจึงนำส่งไปชันสูตรโดยละเอียดที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์
นายนิติธร อินธรรม กำนันตำบลดอยลาน ญาติของผู้เสียชีวิต เล่าว่า พื้นที่ ต.ดอยลาน ในระยะหลังจะมีลมพายุบ่อย โดยเฉพาะจุดตรงนี้ นายจรัญจึงมีความกังวลว่าต้นไทรต้นนี้จะโดนลมพายุพัดจนล้มหรือกิ่งไม้หล่นลงมาทับคนได้รับบาดเจ็บหรือตกใส่ทรัพย์สินเสียหาย จึงอยากจะตัดอยู่ตลอด
วันนี้ก็มาชวนชาวบ้านให้ไปช่วยดึงอยู่ แต่ที่หมู่บ้านมีงาน และบางบ้านก็ติดภารกิจเก็บเกี่ยวผลิตผลการเกษตร ตนก็เลยทักท้วงว่าควรจะรอสัก 2-3 วัน แล้วตนจะช่วยระดมชาวบ้านมาช่วยโค่นต้นไม้ให้ แต่นายจรัญก็มาแอบโค่นเองคนเดียว ตนมาทราบข่าวก็รู้สึกหดหู่ เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะผู้ตายก็เป็นญาติของตนด้วย ซึ่งเหตุการณ์อุบัติเหตุเกี่ยวกับต้นไม้ต้นนี้ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว นายจรัญก็พยายามจะปีนขึ้นไปตัดทอนกิ่งต้นไทรต้นนี้ และประสบอุบัติเหตุตกต้นลงมาจนทำให้กระดูกซี่โครงหักมาแล้วครั้งหนึ่ง อยากฝากเตือนว่า เวลาจะทำอะไรก็อย่าทำอะไรด้วยความประมาท เวลาตัดต้นไม้ใหญ่ก็ควรจะมีอุปกรณ์ที่มีความพร้อมมากกว่านี้
ทางด้าน นางนุชรา ภรรยาของผู้เสียชีวิต เล่าว่า สามีพยายามตัดต้นไทรต้นดังกล่าวมาหลายวันแล้ว โดยการไปตัดรอบโคนต้นเอาไว้ และวันนี้สามีกะว่าจะไปชวนเพื่อนบ้านมาช่วยดึงต้นไม้ให้ล้มไปในทิศทางที่ไม่เป็นอันตราย แต่พอดีว่าวันนี้เป็นวันพระ ที่หมู่บ้านก็มีงานทำบุญ ส่วนตนเองก็รีบไปตรวจสุขภาพของคนในหมู่บ้าน เพราะรับหน้าที่เป็น อสม. ด้วย ก็ไม่คิดว่าสามีจะขึ้นไปตัดต้นไม้ด้วยตนเอง เพราะตอนออกบ้านก็ยังไม่เห็นว่าสามีขึ้นไปตัดเลย จนกระทั่งมารู้ข่าวเศร้าในช่วงสายว่าต้นไม้ล้มทับสามีจนเสียชีวิต ตนก็เลยรีบมาดู ต้นไม้ดังกล่าวมีอายุหลายสิบปี ที่ผ่านมาสามีก็จะพยายามขึ้นไปตัดแต่งกิ่งตลอด และก่อนขึ้นไปก็จะมีการจุดธูปเทียนบอกทุกครั้ง ในความคิดส่วนตัวก็คิดว่าเป็นต้นไม้ใหญ่ อายุมาก น่าจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องคุ้มครองอยู่
สอดคล้องกับ นายพรมมา อายุ 74 ปี ญาติของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ต้นไม้ต้นนี้อายุน่าจะมากกว่า 100 ปี เพราะเท่าที่ตนจำความได้ต้นไม้ต้นนี้ก็อยู่ตรงนี้แล้ว ตนคิดว่าคงจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สิงสถิตย์อยู่ด้วย เพราะที่ตรงนี้ในอดีตเป็นกู่เก่าหรือเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าบ้าน เวลาตนมาเลี้ยงวัวเลี้ยงความตอนเด็กๆ และเดินผ่านที่ตรงนี้ก็จะค่อนข้างมีบรรยากาศน่ากลัว แต่มาระยะหลังได้มีการทำถนนผ่านก็เลยไม่น่ากลัวเหมือนแต่ก่อน แต่ต้นไทรต้นนี้ก็อยู่มานาน คิดว่าคงจะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องรักษาอยู่ พอรู้ข่าวร้ายว่านายจรัญซึ่งเป็นญาติต้องมาถูกต้นไม้ต้นนี้ล้มทับก็รู้สึกเสียใจ ยังคิดอยู่ว่าไม่น่าจะมาลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์
