“บุ๋ม ปนัดดา” ลงพื้นที่ จ.สระแก้ว ให้กำลังใจชาวบ้าน พร้อมมอบถุงยังชีพช่วยผู้ประสบเหตุปะทะชายแดน
(13 พ.ย.68) ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี หรือ “บุ๋ม ปนัดดา” ประธานมูลนิธิองค์กรทำดี เดินทางลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านหนองหญ้าแก้ว ที่ต้องอพยพหลบหนีจากเหตุปะทะบริเวณชายแดนเมื่อวานนี้ พร้อมนำถุงยังชีพและน้ำดื่มมามอบให้กับชาวบ้าน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น
คุณบุ๋ม เปิดเผยว่า เหตุผลที่นำถุงยังชีพมาแจกให้กับชาวบ้าน เพราะเกรงว่าหากสถานการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นอีก และชาวบ้านต้องหลบอยู่ในบังเกอร์หลายวัน อาจขาดแคลนอาหารเหมือนเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 มาก่อน จึงจัดเตรียมถุงยังชีพที่ภายในมีข้าวพร้อมรับประทานซึ่งสามารถเก็บไว้ได้ถึง 3 วัน
เมื่อคุณบุ๋มเดินทางมาถึงที่ว่าการอำเภอโคกสูง ชาวบ้านหนองหญ้าแก้วจำนวนมากที่มารอต้อนรับต่างวิ่งเข้ามาสวมกอดด้วยความดีใจ พร้อมเล่าเหตุการณ์ความหวาดกลัวจากการหนีตายเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยตัวแทนชาวบ้านกล่าวขอบคุณที่คุณบุ๋มเดินทางมาให้กำลังใจและนำสิ่งของมาช่วยเหลือ พร้อมบอกด้วยว่า “อยากให้คุณกัน จอมพลัง” เดินทางมาเยี่ยมชาวบ้านเช่นกัน เพราะเป็นอีกคนที่ประชาชนศรัทธาและอยากให้มาเห็นสภาพความเป็นอยู่ในพื้นที่
นางวราพร หนึ่งในชาวบ้านหนองหญ้าแก้ว กล่าวทั้งน้ำตาว่า “ดีใจมากที่คุณบุ๋มมา เพราะเธอไม่ใช่แค่ดารา แต่เป็นคนที่ลงมือช่วยจริง ๆ มาตลอด” พร้อมทั้งกล่าวพาดพิงถึงรัฐบาลว่า “นายกรัฐมนตรีไม่ต้องมาเยี่ยมก็ได้ เพราะทุกครั้งที่ไปประชุมก็ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลง มีแต่เสียเปรียบ เขมรได้ประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียว อยากให้หยุดเอาภาษีประชาชนไปผลาญโดยเปล่าประโยชน์”
นอกจากถุงยังชีพและน้ำดื่มแล้ว มูลนิธิองค์กรทำดี ยังมอบสายทูนิเก้และผ้ายันต์หลวงพ่อวราห์ ซึ่งเคยมอบให้กับทหารกองทัพภาคที่ 2 ให้กับทหารกองทัพภาคที่ 1 เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนด้วย
ด้านคุณบุ๋ม ปนัดดา กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ไม่มีใครรู้ว่าสถานการณ์จะยืดเยื้อหรือปะทุขึ้นอีกเมื่อใด การเตรียมถุงยังชีพจึงเป็นเรื่องจำเป็น โดยมองว่าสถานการณ์ในจังหวัดสระแก้วแม้จะไม่รุนแรงเท่าพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 แต่กลับน่าเป็นห่วงกว่า เพราะเป็นพื้นที่ราบและมีประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่น หากเกิดเหตุปะทะขึ้นอีกอาจกระทบต่อชีวิตประชาชนโดยตรง
เธอยังกล่าวถึงเหตุปะทะเมื่อวานนี้ว่า “ทุกอย่างเหมือนถูกวางแผนไว้หมดแล้ว พอมีข่าวปะทะ ก็มีภาพประชาชนบาดเจ็บออกมาอย่างรวดเร็ว เหมือนเป็นการจัดฉาก เพราะฝั่งกัมพูชาทำงานกันเป็นทีมและมีความพร้อมสูง แต่ฝั่งไทยกลับทำงานช้ากว่าเสมอ”
พร้อมทั้งตั้งคำถามเชิงสะเทือนใจว่า
“ถึงเวลาหรือยังที่รัฐบาลจะต้องแอ็คชั่นให้เด็ดขาดกว่านี้? ประชาชนและทหารถูกรังแกมามากแล้ว ทหารหลายคนต้องบาดเจ็บสาหัส แต่รัฐบาลยังไม่ทำอะไรนอกจากประท้วง คุณสามารถปกป้องประเทศของคุณได้แค่นี้จริง ๆ เหรอ?”
คุณบุ๋มยังกล่าวย้ำในตอนท้ายว่า ไม่ต้องโทษทหาร เพราะทหารทำได้เพียงป้องกันตัวเท่านั้น หากไม่มีคำสั่งจากผู้ใหญ่ก็ไม่สามารถตอบโต้ได้ เพราะทุกวันนี้ทหารอยู่ภายใต้การควบคุมของนักการเมือง