เช้านี้ที่หมอชิต - ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่หลายจังหวัด อย่างจังหวัดสุโขทัย น้ำเอ่อท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีฝั่งตะวันตก
น้ำยังท่วมพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ จ.สุโขทัย
น้ำจากลำคลองแม่รำพันเอ่อท่วม ตั้งแต่เชิงสะพานพระร่วง ถึงหน้าสำนักงาน ททท. จังหวัดสุโขทัย ยังคงมีน้ำท่วมขังสูงประมาณ 30 ซม.
ส่วนร้านค้าต้องนำกระสอบทราย มาวางกั้นหน้าร้าน เพื่อกันน้ำกระแทกเข้าร้านค้า ซึ่งน้ำที่ท่วมขังขณะนี้ ยังไม่สามารถระบายลงมาน้ำยมได้หมด เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำยมมีระดับที่สูงกว่าคลองแม่รำพัน
รพ.สุโขทัย เปิดประตูทางเข้า 1 ช่องทาง รับผู้ป่วย จ.สุโขทัย
ขณะที่ โรงพยาบาลสุโขทัย ได้ใช้แบร์ริเออร์มาวางเป็นแนวขวางถนน เพื่อกั้นน้ำที่จะไหลเข้ามาทางประตูฝั่งขาเข้า พร้อมกับใช้เครื่องสูบน้ำออก เพื่อเปิดช่องทางให้รถพยาบาลและรถผู้ป่วยสามารถเดินทางเข้าออกโรงพยาบาลได้สะดวกขึ้น
ชาวบ้านเครียดน้ำท่วม ขาดรายได้ จ.พิษณุโลก
จังหวัดพิษณุโลก ชาวบ้านในพื้นที่ชุมชนบ้านปากคลอง ตำบลบางระกำ อำเภอบางระกำ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า น้ำกลับมาท่วมอีกรอบแน่นอน แม้ว่าตอนนี้น้ำจะลดลงไปบ้างแล้ว หลังระดับน้ำแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นไม่หยุด และเมื่อเช้านี้เพิ่มขึ้นอีก 10 เซนติเมตร
ชาวบ้านบอกว่า เจอน้ำท่วมทุกปีก็ยังไม่ชิน แถมชีวิตลำบากขึ้นทุกปี ทั้งจับปลาก็ไม่ได้ ปลูกอะไรก็ไม่ได้ ส่วนเงินชดเชยที่รัฐบาลสัญญาไว้ว่าจะให้ ทุกวันนี้ก็ยังเงียบ
GISTDA เปิดเผยข้อมูลภาพถ่ายจากดาวเทียม เผยให้เห็นพื้นที่น้ำท่วมขังในบริเวณทุ่งรับน้ำบางระกำและพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งสิ้น 94,800 ไร่ โดยครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของ 3 อำเภอในจังหวัดพิษณุโลก ได้แก่ อำเภอบางระกำ อำเภอพรหมพิราม และอำเภอเมืองพิษณุโลก ท่วมขังรวม 59,170 ไร่ และอีก 1 อำเภอ ในจังหวัดสุโขทัย คือ อำเภอกงไกรลาศ ท่วมขัง 35,630 ไร่ ส่วนใหญ่พื้นที่ได้รับผลกระทบหลัก เป็นพื้นที่เกษตรกรรม
ชาวพยุหะคีรี น้ำท่วมขังนานกว่า 3 เดือน จ.นครสวรรค์
น้ำท่วมอ่วมหนักไม่แพ้ จังหวัดพิษณุโลก อย่างในพื้นที่อำเภอพยุหะคีรี ยังคงน่าเป็นห่วง หลังแม่น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมพื้นที่ติดต่อกันยาวนานกว่า 3 เดือน
โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่ 1 ถึงหมู่ 7 ตำบลย่านมัทรี ถนนหลายหมู่บ้านถูกตัดขาดชาวบ้านต้องใช้เรือเป็นพาหนะหลักในการเดินทาง ชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องจำใจทิ้งบ้านอพยพไปอยู่ที่พักพิงชั่วคราว เพื่อความปลอดภัย
สถานการณ์น้ำ 4 เขื่อนหลัก ลุ่มน้ำเจ้าพระยา
- เขื่อนภูมิพล ปริมาตรน้ำ 13,406 ล้าน ลบ.ม. (99.59%) ระบายน้ำในอัตรา 55 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน
- เขื่อนสิริกิติ์ ปริมาตรน้ำ 9,309 ล้าน ลบ.ม. (98%) น้ำระบายน้ำในอัตรา 5 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน
- เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ปริมาตรน้ำ 953 ล้าน ลบ.ม. (101.47%) ระบายน้ำในอัตรา 5.18 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน
- เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปริมาตรน้ำ 920 ล้าน ลบ.ม. (95.81%) ระบายน้ำในอัตรา 15.11 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน
สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนภูมิพล ทาง สทนช. เผยว่า ยังเป็นสถานการณ์ที่ควบคุมได้ โดยไม่มีความจำเป็นต้องเปิดอาคารระบายน้ำล้นเหมือนกับปี 2554
เนื่องจากปัจจุบันปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนมีแนวโน้มลดลงอย่างชัดเจน และมีแผนปรับลดการระบายน้ำออกจากเขื่อน โดยจะทยอยลดลงจาก 55 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน เหลือเพียง 30 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ภายในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้