ทบ.แจงสื่อฯ เสนอข่าวผิด ยัน “ทุ่นระเบิดใหม่”

View icon 18
วันที่ 14 พ.ย. 2568 | 11.05 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - หลังจากสื่อมาเลเซีย เผยแพร่ข่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย ระบุว่า ระเบิดที่พบชายแดนไทย-กัมพูชา เป็น "ทุ่นระเบิดเก่า" ล่าสุด กองทัพบก ออกมาตอบโต้ยืนยันว่า เป็นข่าวที่ผิดพลาด ย้ำ รายงาน AOT ยันชัด ทุ่นระเบิดใหม่

พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า เป็นการนำเสนอข่าวที่ผิดพลาดของสำนักข่าว Bernama ซึ่งปัจจุบันได้แก้ไขให้ถูกต้องแล้ว และเมื่อตรวจสอบจากเอกสารรายงานของ AOT ก็พบว่า มีการระบุว่าเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ จึงเป็นเครื่องยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเรื่องของการนำเสนอข่าวที่ผิดพลาดอย่างแน่นอน

]ส่วนนายนิกรเดช พลางกูร โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงชี้แจงว่า หลังจากเหตุปะทะบริเวณชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ไทยได้มีหนังสือประท้วงกัมพูชาอย่างเป็นทางการ

นอกเหนือจากหนังสือประท้วง กรณีการลอบเข้ามาวางทุ่นระเบิดก่อนหน้านี้ และจะเวียนหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงไปยังคณะทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย

ขณะที่ นายกรัฐมนตรี ได้มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเรื่องนี้ด้วยแล้ว

ส่วนวันนี้ (14 พ.ย.) ฝ่ายไทยจะจัดให้คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) ลงตรวจสอบข้อเท็จจริง ในพื้นที่ห้วยตามาเรีย จังหวัดศรีสะเกษ และบ้านหนองหญ้าแก้ว จังหวัดสระแก้ว

นายนิกรเดช ย้ำถึงการละเมิดซ้ำต่อการปฏิบัติตามถ้อยแถลงของกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังพยายามสร้างสถานการณ์ และข้อมูลเท็จ ฝ่ายกัมพูชาจัดฉากสถานการณ์โดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพราะเหตุการณ์ยั่วยุให้เกิดการปะทะกันบริเวณบ้านหนองหญ้าแก้วเกิดขึ้นเพียง 2 วัน หลังจากการลอบวางทุ่นระเบิดในเขตแดนไทย

ขณะที่ นายวันวิชิต บุญโปร่ง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์เฟซบุ๊กว่า ได้พบปะหารือกับนักการทูตชาติมหาอำนาจ เนื้อหาหลักการสนทนา คือ เรื่องไทย-กัมพูชากว่า 90% พวกเขาตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องกัมพูชากล่าวหาไทยว่ายิงพลเรือนตาย 1 คน จัดฉาก 1000 % เพราะถ้ามั่นใจว่าทหารไทยยิงจริง ๆ ต้องฟ้องโวยวาย และรอคณะผู้สังเกตการณ์ AOT มาพิสูจน์หลักฐาน

และเขายังบอกว่ารู้ทันเหลี่ยมกัมพูชา เรื่องการทำให้ตัวเองเป็นเหยื่อตลอดเวลา รวมทั้งการใช้โซเชียลเพื่อฟ้องโลก ประณามไทย ทำเป็นระบบผิดธรรมชาติจนเกินไป

ส่วน นายหิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า สู้กับคนพาล อย่าใช้วิถีของบัณฑิต อาจจะถึงเวลาที่จะเลิกทำตัวเป็นบัณฑิตเพราะเรารบกับกองโจรที่มุดใต้กระโปรงของสตรีและเด็ก กองโจรที่แอบยิงเราอยู่หลังประชาชน ถึงเวลาหรือยังที่จะต้องกำราบความกำแหงของลูกหลานพระยาละแวกพวกนี้ ให้เข็ดหลาบ วิธีการกำราบเด็กเกเร บางทีครูแนะแนวพูดไม่ได้ผล ต้องใช้ไม้เรียวของครูฝ่ายปกครอง รบเถอะครับ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง