ห้องข่าวภาคเที่ยง - เกษตรกรในจังหวัดอีสานใต้ กังวลว่า หากเกิดเหตุปะทะไทย-กัมพูชา อีกรอบ จะเก็บเกี่ยวข้าวไม่ทัน ทำให้ขาดรายได้
ความกังวลนี้ ทำให้เกษตกรในอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เกณฑ์คนงานและใช้รถเกี่ยวข้าว เร่งลงเเปลงเกี่ยวข้าวเจ้าและข้าวเหนียว ในเวลากลางคืน เพราะหากเกิดปะทะขึ้น แล้วเกี่ยวข้าวไม่ทัน จะทำให้ข้าวแก่ร่วงเสียหาย
นางพิไลพันธ์ วงศ์เเสง เจ้าของแปลงนา บอกว่า มีที่นาทั้งหมด 10 ไร่ ต้องเกี่ยวให้เสร็จ เพื่อช่วยทหารสู้รบเเบบไม่ต้องห่วง และจะได้อพยพไปอยู่ที่ปลอดภัย โดยไม่ต้องห่วงว่านาจะเสียหาย
ด้าน เจ้าของรถเกี่ยวข้าว เปิดเผยว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่ข้าวสุก ประกอบกับสถานการณ์ความไม่สงบ เกษตรกรจึงเร่งเกี่ยวข้าว ทำให้คิวยาวประมาณ 5-6 คิว หรือคิดเป็นไร่ ประมาณ 20 ไร่ มีรายได้ประมาณ 10,000 บาทต่อวัน และปัจจุบันรถเกี่ยวข้าวไม่เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกร
ไม่ต่างอะไรกับเกษตรกรในอำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ต่างเร่งเก็บเกี่ยวข้าวในเวลากลางวัน และนำข้าวเปลือกไปตากลดความชื้น ก่อนเก็บใส่ยุ้งฉาง โดยนายกิตติพงษ์ โยเเก้ว เกษตรกร บอกว่า กลัวจะยิงปะทะกัน จึงต้องเร่งจ้างรถเกี่ยวเก็บเกี่ยวข้าวในทุ่งนา เพราะหากเก็บเกี่ยวไม่ทัน แล้วเกิดการสู้รบ ต้องอพยพออกจากพื้นที่ ไม่รู้ว่าจะอยู่นานแค่ไหน ข้าวที่แก่เต็มที่ อาจจะเสียหาย
ไม่เฉพาะเกษตรกร ผู้ปลูกข้าวเท่านั้น แต่ชาวสวนยางพารา เตรียมพร้อมเช่นกัน นางสาวกาญจนา ยิงปัก ลูกจ้างกรีดยางพารา บอกว่า ช่วงนี้ต้องเร่งกรีดยางพารามาขาย เพราะกลัวจะเกิดการปะทะ แล้วไม่สามารถกรีดยางได้ ทำให้ขาดรายได้ เพราะต้องสำรองเงินไว้เป็นค่าใช้จ่ายในช่วงที่อพยพ ยอมรับว่าตอนนี้ต้องใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวง แต่หากจะรบก็อยากให้ทำให้จบ ๆ โดยเร็ว จะได้กลับไปทำมาหากินแบบปกติ
