ป้าสุดช้ำ ! ออกไปงานบวช กลับมาบ้านโจรกวาดเงิน 2 แสนบาท และทองอีก 5 บาท หายเกลี้ยง

ป้าสุดช้ำ ! ออกไปงานบวช กลับมาบ้านโจรกวาดเงิน 2 แสนบาท และทองอีก 5 บาท หายเกลี้ยง

View icon 649
วันที่ 16 พ.ย. 2568 | 18.18 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ป้าวัย 59 ปี สุดช้ำถูกโจรงัดบ้าน ขณะออกไปร่วมงานบวช เงินหายเกลี้ยง 2 แสนบาท และทองอีก 5 บาท ทำเอากินไม่ได้นอนไม่หลับ เผยสุดเสียใจทำงานเก็บสะสมมาตั้งแต่สมัยสาว ๆ

เกิดเหตุโจรงัดบ้านเข้าไปขโมยในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.5 บ.ท่าโปงทอง ต.โนนทอง อ.นายูง จ.อุดรธานี เมื่อช่วงบ่าย วานนี้ (15 พ.ย. 68) ทาง นางสุบรรณ อายุ 59 ปี เจ้าของบ้าน วอนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นายูง ติดตามตัวคนร้ายมาให้ได้โดยเร็วสุด

วันนี้ (16 พ.ย. 68) มีชาวบ้านและญาติพี่น้องของ นางสุบรรณ มานั่งที่บ้านหลังดังกล่าวเพื่อพูดคุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น และให้กำลังใจ นางสุบรรณ โดยมีหญิงสูงอายุในหมู่บ้านได้นำฝ้ายผูกแขนมาผูกให้กับ นางสุบรรณ และอวยพรให้หมดเคราะห์หมดโศก สิ่งร้าย ๆ ให้หมดไป และให้หายจากอาการป่วยความดันและเบาหวาน ทรัพย์สินถูกขโมยไปกว่าครึ่งล้าน ไม่ตายก็หาใหม่ได้ ทำให้ นางสุบรรณ ถึงกับหลั่งน้ำตาในความมีน้ำใจและคำปลอบใจของเพื่อนบ้านและญาติพี่น้อง ทำให้มีกำลังใจสู้ต่อ เพราะเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังถูกคนร้ายงัดบ้านได้เงินสดและทองรูปพรรณไปมูลค่าหลายแสนบาท ทำให้ นางสุบรรณ กินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะเจ็บใจและนอนร้องไห้ทั้งคืน

ทาง นางสุบรรณ เผยว่าที่ประตูครัวหลังบ้านพบร่องรอยคนร้ายใช้มีดพร้าของที่บ้านที่วางอยู่ข้างประตู ทำการงัดสะเดาะกลอนประตูด้านในออก เนื่องจากรูล็อกกลอนมีความตื้น คนร้ายจึงงัดได้อย่างง่ายดาย ก่อนเข้าไปในบ้านตรงเข้าไปเปิดประตูห้องนอนที่ลืมล็อกกุญแจเอาไว้ โดยตนออกจากบ้านไปที่วัดเพื่อไปร่วมงานบวชของเพื่อนบ้าน โดยคนร้ายได้ลักเอากระเป๋าเงินสีม่วงที่เก็บไว้ในกระเป๋าผ้าสะพายที่วางอยู่บนหัวเตียงนอนไป ซึ่งข้างในกระเป๋ามีเงินสดประมาณ 200,000 บาท, สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 3 เส้น, สร้อยข้อมือทองคำ หนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น, แหวนทองคำหนัก 1 สลึง จำนวน 4 วง และบัตรเอทีเอ็ม 1 ใบ รวมทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปมูลค่าประมาณ 518,000 บาท

นอกจกานี้ นางสุบรรณ เผยว่า ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนงัดบ้าน แต่เป็นครั้งที่ 3 แล้ว โดย 2 ครั้งที่แล้วเกิดขึ้นเมื่อ 1 ปีก่อน แต่คนร้ายไม่ได้อะไรไป เนื่องจากตนล็อกกุญแจห้องนอนเอาไว้อย่างแน่นหนา และเชื่อว่าคนร้ายเป็นคนเดียวกันที่มาก่อเหตุทั้ง 3 ครั้ง เพราะมีพฤติกรรมในการก่อเหตุคล้ายกันคือ ทรัพย์สินมีค่าอย่างอื่นภายในบ้านคนร้ายไม่แตะต้อง แต่จะเดินตรงเข้าไปที่ห้องนอนเลย เพราะน่าจะรู้ว่าเก็บเงินและทองไว้ในห้องนอน และเชื่อว่าคนร้ายเป็นขี้ยาในหมู่บ้านเดียวกัน และรู้เวลาที่ตนเข้าออกบ้าน

ป้าสุบรรณ เล่าทั้งน้ำว่า ทุกครั้งที่ออกจากบ้านไปทำบุญที่วัด ตนจะล็อกกุญแจห้องนอนทุกครั้ง แต่เมื่อวานกลับลืมล็อกไว้ ตนไปร่วมงานบวชท่าบ้านของเพื่อนบ้าน จากนั้นได้กลับมาเอาของแต่เมื่อมาถึงบ้านก็เห็นประตูหลังบ้านเปิดออก ตนรู้สึกตกใจจึงรีบไปดูของมีค่าที่อยู่ในห้องนอน ก็พบว่าหายไปจนเกลี้ยง โชคดีที่ยังเหลือสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ที่ตนสวมใส่ไปวัด ไม่เช่นนั้นคงไม่เหลืออย่างแน่นอน ทองรูปพรรณทั้งหมด ตนเก็บสะสมมาตั้งแต่เป็นสาว ตั้งแต่ทองรูปพรรณบาทละ 4,000 บาท ส่วนเงินสดตนเก็บไว้เวลาฉุกเฉินเวลาตนล้มป่วย โดยทรัพย์สินทั้งหมดตนได้มาจากการกรีดยางพาราขายในเนื้อที่ 50 ไร่ ซึ่งเป็นที่มรดก แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้ว เพราะร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน แต่จ้างคนมากรีดแล้วแบ่งกันคนละครึ่ง และตอนนี้ก็แบ่งสวนยางให้ลูกสาวครึ่งนึงเพื่อกรีดยางขายเลี้ยงครอบครัว

สุดท้าย ตนฝากถึงโจรให้นำเงินและทองมาคืน หากไม่กล้าเอามาคืนแบบตรง ๆ ก็ให้มาวางไว้ในบริเวณบ้านก็ได้ ตนก็จะไปถอนแจ้งความ และเมื่อ 5 วันก่อน หางตาด้านซ้ายกระตุกติดต่อกัน 5 วัน ตนก็คิดว่าข้างซ้ายได้หัวเราะ ข้างขวาได้ร้องไห้ คิดว่าคงจะได้สนุกในงานบวชหรือมีโชคลาภ และไม่คิดว่าจะโดนคนร้ายงัดบ้านเลย ซึ่งตำรวจหลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก็บอกตนว่าคนร้ายอยู่ไม่ไกลจากบ้าน อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง