น้ำท่วมสุโขทัยฝั่งตะวันตกคลี่คลายแล้ว จ.สุโขทัย

เช้านี้ที่หมอชิต - ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในเขต อำเภอเมืองสุโขทัยฝั่งตะวันตกขณะนี้คลี่คลายแล้ว หลังจากถูกน้ำท่วมขังกว่า 1 สัมปดาห์ ทางจังหวัดเร่งฟื้นฟู

น้ำท่วมสุโขทัยฝั่งตะวันตกคลี่คลายแล้ว จ.สุโขทัย
น้ำท่วมในเขตอำเภอเมืองสุโขทัย ฝั่งตะวันตกช่วงตั่งแต่ถนนจรดวิถีถ่อง บริเวณหน้าตลาดไตรรัตน์ ไปจนถึงวัดกำแพงงาม ตำบลบ้านกล้วย ขณะนี้คลี่คลายแล้ว ระดับน้ำที่เคยท่วมขังนานกว่า 1 สัปดาห์ ลดลงแล้วทุกจุด สามารถเปิดเส้นทางจานตราจรได้ตามปกติแล้ว

สำหรับน้ำท่วมสุโขทัยฝั่งตะวันตกเกิดจากปริมาณฝนตกสะสมในพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 1-2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้น้ำจากอ่างเก็บน้ำแม่มอก และอ่าวเก็ยน้ำแม่รำพัน ล้นสปิลเวย์ ไหลมาบรรจบกันที่อำเภอเมืองสุโขทัยฝั่งตะวันตก

อีกทั้งระดับน้ำในแม่น้ำยมมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น ทำให้น้ำจากคลองแม่รำพันระบายลงแม่น้ำยมไม่ได้ ส่งผลให้น้ำในคลองแม่รำพันล้นตลิ่งท่วมชุมชน

เร่งระบายน้ำออกจากทุ่งบางระกำ จ.พิษณุโลก
จังหวัดพิษณุโลก เหมือนจะมีข่าวดี ทางสำนักงานชลประทานที่ 3 และหน่วยงานชลประทานในพื้นที่ ได้ระบายน้ำออกจากพื้นที่รับน้ำทุ่งบางระกำโมเดลปริมาณ 202 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พร้อมกับติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ตรงประตูระบายน้ำบางแก้ว จำนวน 6 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำลดผลกระทบพื้นที่ชุมชน 

คาดการณ์ว่าจะระบายน้ำในทุ่งบางระกำ คงเหลือ 100 ล้านลูกบาศก์เมตร จาก 204 ล้านลูกบาศก์เมตร ให้ได้ภายใน 30 พฤศจิกายนนี้

สอบถามสามี ภรรยา ชาวอำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ที่เดินทางมาดูน้ำที่ประตูระบายน้ำบางแก้ว บอกว่า นาข้าวหอมมะลิที่กำลังจะเก็บเกี่ยวเร็ว ๆ นี้ ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตรหลายไร่ ไม่สามารถเกี่ยวได้ ทำได้เพียงขี่รถจักรยานยนต์ไกลว่า 20 กิโลเมตร มาดูน้ำที่ประตูระบายน้ำเกือบทุกวัน เพื่อหวังว่าระดับน้ำจะลดลงบ้าง และสามารถเกี่ยวข้าวได้

สถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา อยู่ในภาวะเกือบเต็มความจุ ได้แก่ เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก ปริมาณน้ำ 99% ของความจุ ระบาย 636.57 ลบ.ม./วินาที

เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ปริมาณน้ำ 98% ของความจุ ระบาย 58.10 ลบ.ม./วินาที

เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จังหวัดพิษณุโลก ปริมาณน้ำ 102% เกินความจุ ระบาย 60 ลบ.ม./วินาที

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี ปริมาณน้ำ 96% ของความจุ ระบาย 93.29 ลบ.ม./วินาที

เขื่อนเจ้าพระยา ลดการระบายเหลือ 2,800 ลบ.ม./วินาที
ส่วนสถานการณ์น้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท รักษาอัตราการระบายน้ำไว้ในระดับที่ 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แม้ตัวเลขดังกล่าวจะปรับลดลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อน แต่ก็ยังส่งผลให้เกิดน้ำท่วมสูงในพื้นที่ลุ่มต่ำท้ายเขื่อน โดยเฉพาะในอำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ต่อเนื่องมายังจังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดอ่างทอง และ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

นายชวลิต จันทรรัตน์ กรรมการและผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำ ทีมกรุ๊ป ระบุว่า น้ำทะเลจะหนุนสูงในแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นช่วงที่ 2 ของเดือนนี้ ตั้งแต่วันที่ 19-29 พฤศจิกายนนี้ จะมีผลทำให้การระบายน้ำในแม่น้ำ และในทุ่งต่าง ๆ จาก จังหวัดสิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา และ สุพรรณบุรี ลงสู่ทะเล ทำได้ช้าลง

ส่วนน้ำท่วมพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ สองตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยาจากปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพฯ และ สมุทรปราการ จะเริ่มคลี่คลายและเข้าสู่ภาวะปกติ ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายนเป็นต้นไป

กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า ช่วงวันที่ 17-23 พฤศจิกายน ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศแปรปรวน โดยจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ในระยะแรก โดยจะเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และ นครราชสีมา

หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง และมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 4-7 องศาเซลเซียส

ส่วนภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส