ระทึก! กู้ภัยเข้าพื้นที่น้ำท่วม นำอาหารและน้ำไปให้ชาวบ้าน ขณะเรือกู้ภัยวิ่งผ่านพื้นที่น้ำลึกไปชนสันดอนใต้น้ำ ทำให้กู้ภัย 1 นาย กระเด็นตกน้ำ ใบพัดเรือหมุนเฉี่ยวแขนจนเสื้อขาด และกระแทกที่หน้าอก
17 พฤศจิกายน 2568 สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ทุ่งรับน้ำ อำเภอบางซ้าย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังคงวิกฤตยืดเยื้อนานกว่า 2 เดือน หลังน้ำจากแม่น้ำน้อยไหลทะลักผ่านประตูผักไห่ และประตูระบายน้ำเจ้าเจ็ดในอำเภอเสนา ล้นสปิลเวย์ เข้าท่วมพื้นที่ทุ่งกว้างของบางซ้าย เป็นอำเภอสุกท้ายที่รับผลกระทบจากน้ำท่วม
ทุ่งบางซ้าย ปัจจุบันมีสภาพคล้ายทะเล ลูกคลื่นสูง 20–30 เซนติเมตร ซัดกระหน่ำตลอดทั้งวัน สร้างความเสียหายให้บ้านเรือน โดยเฉพาะตำบลปลายกลัดที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด
กำนันสินิรัชต์ โพธิ์พิทักษ์ กำนันตำบลปลายกลัด เปิดเผยว่า ระดับน้ำเพิ่มสูงจนจ่อพื้นบ้านกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ถนนหมู่บ้านในหมู่ 8 และหมู่ 9 ถูกน้ำท่วมหมดหมู่บ้านถูกตัดขาด ต้องไม่สามารถเข้าออกได้ ต้องใช่เรือสัญจรเข้าไประยะทางกว่า 3 กิโลเมตร เรือพายไม่สามารถใช้การได้เพราะครื่นลมแรงเป็นทะเล
ยายประยูร พุ่มพฤกษ์ อายุ 88 ปี หนึ่งในผู้ประสบภัย ต้องเผชิญน้ำที่สูงเกือบถึงพื้นบ้านและลูกคลื่นราว 30 เซนติเมตร พัดซัดไม่หยุดจนบ้านสั่นคล้ายอยู่กลางทะเล ยิ่งใตตอนเช้าและตอนเย็นแทบอยู่กันไม่ได้เพราะลมแรงครื่นแรง
ด้านความช่วยเหลือ ชัชตลาดไท หัวหน้าทีมกู้ภัย พร้อมนายทรงพล สุขสมบูรณ์ หรือ สจ.เบียร์ เข้าไปสำรวจความเป็นอยู่ และนำเรือบรรทุกน้ำดื่มแจกจ่ายให้ชาวบ้าน เนื่องจากถนนภายในหมู่บ้าน ถูกน้ำท่วมทั้งหมด ต้องใช้เรือวิ่งเข้าไปกว่า 3 กิโลเมตร ฝ่าคลื่นในทะเลบางซ้าย จึงจะถึงหมู่บ้านได้ ขณะเข้าแจกจ่ายมีเหตุระทึกเกิดขึ้น เมื่อเรือกู้ภัยที่บรรทุกน้ำวิ่งผ่านพื้นที่น้ำลึกไปชนสันดอนใต้น้ำ ทำให้นายบีม อาสาสมัครกู้ภัยอยุธยารวมใจจุดบางบาล ที่นั่งอยู่หัวเรือ กระเด็นตกน้ำทันที ใบพัดเรือหมุนเฉี่ยวแขนจนเสื้อขาดและกระแทกที่หน้าอก โชคดีไม่ถูกคมใบพัดฟันร่างกาย มีเพียงแรงกระแทกและสำลักน้ำ เนื่องจากใส่เสื้อชูชีพทำให้ลอยคออยู่ในน้ำ ทีมกู้ภัยรีบเข้าช่วยดึงขึ้นเรือก่อนนำส่งโรงพยาบาลบางซ้าย ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว
ชาวบ้านในพื้นที่ยังคงกังวลว่าสถานการณ์น้ำ จะรุนแรงขึ้น หากยังมีน้ำระบายจากประตูผักไห่และประตูเจ้าเจ็ด พร้อมเร่งขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่กินเวลานานกว่า 3 เดือน ในพื้นที่ทุ่งบางซ้าย ซึ่งเป็นทุ่งรับน้ำปลายสุด ของอยุธยาจะไหลลงคลองพระยาบันลือ ออกน้ำท่าออกแม่น้ำท่าจีน และออกไปตามคลองเจ้าเจ็ดบางยี่หน ไปท่วมสุพรรณบุรี
