ระงับถอนกำลังไม่มีกำหนด-เดินหน้าเก็บกู้ทุ่นระเบิด

View icon 430
วันที่ 17 พ.ย. 2568 | 20.01 น.
ข่าวภาคค่ำ
แชร์
ข่าวภาคค่ำ - โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันการ ปล่อยตัวเชลยศึก 18 นาย จะเป็นเรื่องสุดท้ายที่ไทยจะดำเนินการ หากกัมพูชา หมดความเป็นปรปักษ์ พร้อมระงับการถอนกำลังตามปฏิญญาร่วมโดยไม่มีกำหนด

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักงานนายกรัฐมนตรี นำทีมโฆษกกระทรวงกลาโหม โฆษกแต่ละเหล่าทัพ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

ระบุว่า นายกรัฐมนตรี ตั้งใจที่จะแก้ไขทั้งปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และต้องการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างไทยกับต่างประเทศให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

โดยขณะนี้ได้ระงับเรื่องการถอนกำลังออกไปอย่างไม่มีกำหนด และรัฐบาลยืนยันว่าจะเดินหน้าเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ของไทยอย่างเต็มที่ โดยไม่คำนึงว่ากัมพูชาจะเห็นด้วยหรือไม่ แต่ไทยจะเดินหน้าดำเนินการในส่วนนี้ต่อไป

ส่วนการปล่อยตัวเชลยศึกกัมพูชา 18 นายจะเป็นสิ่งสุดท้าย หลังจากที่กองทัพไทย และรัฐบาล เห็นว่าความเป็นปรปักษ์ของกัมพูชาหมดสิ้นไป จึงจะเริ่มเจรจาเรื่องการปล่อยตัวเชลยศึกในรอบใหม่

ขณะที่พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน มีทหารไทยบาดเจ็บจากการเหยียบทุ่นระเบิดทั้งหมด 20 นาย ในจำนวนนี้บาดเจ็บขาขาด 7 นาย

และไทยยังเผชิญอุปสรรคในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด อุปสรรคสำคัญ คือ การขัดขวางของฝ่ายกัมพูชา 16 ครั้ง ประกอบด้วย สระแก้ว 8 ครั้ง ศรีสะเกษ 4 ครั้ง ตราด 2 ครั้ง และสุรินทร์ 2 ครั้ง

พลเรือตรี สุรสันต์ ยังเปิดคลิปหลักฐานจากโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชา เป็นคลิปขณะที่ทหารกัมพูชาเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล บริเวณช่องตาเฒ่า บริเวณเชิงเขาพระวิหาร อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ แต่ไม่ได้เก็บกู้เพื่อหลักมนุษยธรรม แต่เป็นการเคลื่อนย้ายจุดวางทุ่นระเบิดไปวางต่ออีกจุดหนึ่ง

ขณะที่นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ บอกว่า กระทรวงการต่างประเทศจะเดินหน้าชี้แจงต่อประชาคมโลกในทุกโอกาส

หลังจากที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศได้ประท้วงในกรอบอนุสัญญาออตตาวา ไปยังประเทศญี่ปุ่น ทำหนังสือถึงเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ รวมทั้งยังทำหนังสือประท้วงไปยังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เกี่ยวกับการรุกล้ำอธิปไตยไทย

โดยที่นายสีหศักดิ์ มีกำหนดเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีอินโด-แปซิฟิก (IPMF) ครั้งที่ 4 และพบกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้

ด้านนางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการเจรจาภาษีสหรัฐอเมริกา ว่า ขณะนี้ประเทศไทยยึดตามสิ่งที่ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยกัน และพร้อมเดินหน้าเจรจาต่อเนื่อง ซึ่งตั้งใจจะเจรจารายละเอียดข้อตกลงที่เกี่ยวกับการค้าต่างตอบแทนให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้

โดยไทยได้ยืนยันกลับไปว่า ทั้งเรื่องความมั่นคงและการเจรจาภาษีไม่เกี่ยวข้องกัน ส่วนอัตราภาษีนำเข้าสินค้าไทยเข้าสหรัฐฯ ยังคงอยู่ที่ 19 เปอร์เซ็นต์

ส่วนเรื่องการสำรวจเขตแดน และปักหมุดชั่วคราวไทย-กัมพูชา หลักเขตแดนที่ 42-47 บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว จังหวัดสระแก้ว ยังไม่มีความคืบหน้า เพราะกัมพูชา ได้ขอเลื่อนการประชุมกับไทย อ้างว่า ส่งใบรับรองด้านเทคโนโลยีสารสนเทศไม่ทัน

แต่หากได้ใบรับรองในพรุ่งนี้ (18 พ.ย.) ก็จะมีการประชุมกัน และจะเริ่มสำรวจเขตแดนชั่วคราวได้ในวันพุธที่ 19 พฤศจิกายนนี้ ขณะที่ชาวบ้านก็ยังคงรอคำตอบเรื่องที่ดินทำกินที่ถูกกัมพูชายึดไว้ และเรียกร้องเพียงขอให้รัฐบาลและทหารนำคืนกลับมาให้เร็วที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง