เขื่อนเจ้าพระยา ลดการระบายน้ำต่อเนื่อง จ.ชัยนาท

View icon 90
วันที่ 18 พ.ย. 2568 | 06.09 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดลุ่มเจ้าพระยายังอ่วม คาดต้องใช้เวลาอีกเป็นเดือนจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

เขื่อนเจ้าพระยา ลดการระบายน้ำต่อเนื่อง จ.ชัยนาท
เมื่อเช้าวานนี้ (17 พ.ย.) เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ลดการระบายน้ำ แบบขั้นบันได เหลือ 2,755 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อลดผลกระทบน้ำท่วมให้ประชาชน ระดับน้ำท่วมเริ่มลด

ที่หน้าเทศบาลตำบลคุ้งสำเภา อำเภอมโนรมย์ พื้นที่เหนือเขื่อน ผู้ปกครองพาลูกหลานมาเล่นสนามเด็กเล่นกลางน้ำ คลายเครียด ดูแลอย่างใกล้ชิด กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ สร้างรายได้ให้กับแม่ค้าในพื้นที่ ถือเป็นการพลิกวิกฤตน้ำท่วมให้เป็นโอกาส

พื้นที่ท้ายเขื่อนบริเวณ ตำบลบางหลวง อำเภอสรรพยา น้ำท่วมบ้านเรือน 400 หลังคา ชาวบ้านยังอาศัยชั่วคราวริมถนน แม้ปริมาณน้ำท่วมเริ่มลดลง แต่ชาวบ้านยังเดือดร้อน เพราะทำมาหากินไม่ได้ บางคนต้องอาศัยที่ศาลาริมทาง เพราะไม่มีเงินไปเช่าเต็นท์มากาง กินนอนยากลำบาก เฝ้ารอให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ

น้ำยังท่วมสูง ชาวบ้าน-ผู้พิการใช้ชีวิตลำบาก จ.สิงห์บุรี
พื้นที่อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ แม้ปริมาณน้ำจะเริ่มลด ประชาชนยังต้องใช้เรือสัญจร สถานที่ราชการ โรงเรียน สถานีตำรวจ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และ โรงพยาบาลอินทร์บุรี ถูกล้อมไปด้วยน้ำ

สำรวจปริมาณน้ำที่ยังท่วมสูงประมาณ 1 เมตร ไปเยี่ยม ลุงแอ๊ด อายุ 63 ปี ผู้พิการขาลีบ อาศัยอยู่ในบ้านพักชั้น 2 ลำพัง แต่ละวันกู้ภัยจะนำข้าวและน้ำดื่มให้ แต่กว่าจะเข้าไปถึงยากลำบาก ต้องปีนเข้าไปทางหลังคา

เทศบาลฯ ทำทางเดินลอยน้ำ-เรือฟรีให้ 3 ชุมชน จ.สิงห์บุรี
ส่วนพื้นที่ตัวเมืองสิงห์บุรี ถูกน้ำเจ้าพระยาท่วม 3 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนบางแคใน ชุมชนบางแคนอก และ ชุมชนบางกระบือ น้ำสูงประมาณ 1 เมตร มานานกว่า 1 สัปดาห์ ทั้งคน และสัตว์เลี้ยงต่างลำบาก

เทศบาลเมืองสิงห์บุรี จัดเรือรับ-ส่ง ชาวบ้านเข้า-ออกชุมชนฟรี 3 จุด วันละ 3 รอบ มีเจ้าหน้าที่คอยฉีกตั๋ว ตามจุดบริการ เพื่อลดค่าใช้จ่าย อำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ชาวบ้าน และสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านที่มาขับเรือรับจ้างให้กับเทศบาลฯ

ทางเทศบาลฯ ยังได้ทำทางเดินลอยน้ำสูง 1 เมตร ใต้สะพานบางระจัน เข้าไปในชุมชนบางแคใน ระยะทางประมาณ 1 เมตร เพื่อให้ประชาชนเดินเท้าเข้า-ออก ในช่วงที่ไม่มีเรือ ชาวบ้านเชื่อว่าต้องอาศัยอยู่กลางน้ำ ไม่ต่ำกว่า 1 เดือน

ป่าโมก ยังอ่วม เตรียมกู้ถนนสาย 33 จ.อ่างทอง
พื้นที่ หมู่ 5 และ 6 ตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง น้ำยังท่วมมิดหลังคาบ้านพักชั้นเดียว ชาวบ้านที่ออกมาอาศัยศาลาริมทาง อยู่ด้วยความเครียด บอกเป็นเสียงเดียวกัน นอนไม่หลับ เฝ้ารอน้ำลด จะได้กลับไปซ่อมแซมบ้านและข้าวของเครื่องใช้ที่เสียหาย

ส่วนถนนทางหลวง 33 ป่าโมก-สุพรรณบุรี อำเภอป่าโมก ยังถูกน้ำท่วมสูง 60 เซนติเมตร ระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร รถไม่สามารถสัญจรได้ ต้องใช้ทางเลี่ยงระยะทางไกลกว่าเดิม 50 กิโลเมตร

นายสมจิตร สุภาษิต ผอ.แขวงทางหลวงอ่างทอง หารือจะกู้ถนนให้กลับมาสัญจรได้ตามปกติ แผนที่ 1 จะทำคันดินตลอดแนวที่น้ำท่วม 1 กิโลเมตร ประสานท้องถิ่นให้มาสูบน้ำออกจากถนน หากไม่สำเร็จจะทำแผน 2 ทำคันดิน 2 ฝั่ง สูบน้ำออกจากถนน คาดต้องใช้เวลา 3 วัน แต่รถบรรทุกยังห้ามสัญจร

ทุ่งรับน้ำบางซ้าย คลื่นซัดแรงเหมือนทะเล จ.พระนครศรีอยุธยา
ส่วนอำเภอบางซ้าย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทุ่งรับน้ำน้อยมีสภาพคล้ายทะเลน้ำท่วมสุดลูกหูลูกตา มีคลื่นสูงตลอดทั้งวัน ชาวบ้านตำบลปลายกลัด ถูกตัดขาดจากต้องสัญจรเข้า-ออกด้วยเรือ ระยะทางไกล 3 กิโลเมตร ต้องใช้เรือยนต์เท่านั้น เรือพายเข้า-ออกไม่ได้

ยายประยูร พุ่มพฤกษ์ อายุ 88 ปี อาศัยในบ้านพังท่ามกลางน้ำท่วม และคลื่นแรงซัดบ้าน แผ่นกระดานพังหลายจุด ช่วงเช้าและเย็น คลื่นแรง แทบจะอาศัยอยู่ในบ้านไม่ได้ ระหว่างกู้ภัย นำน้ำเครื่องดื่ม เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้าน จังหวะวิ่งผ่านน้ำลึก ไปชนสันดอนใต้น้ำ อาสาที่นั่งหัวเรือกระเด็นตกลงไปในน้ำ ถูกใบพัดเรือเฉี่ยว แขนเสื้อขาด เคราะห์ดีที่ใบพัดไม่เฉือนตามร่างกาย และใส่เสื้อชูชีพ

ชาวบ้านถูกน้ำท่วมมานาน 3 เดือน เชื่อว่าปริมาณน้ำยังท่วมไปอีกนาน เพราะยังต้องรับน้ำจาก อำเภอผักไห่ และ อำเภอเสนา อยากให้หน่วยงานเร่งระบายน้ำโดยเร็ว