เช้านี้ที่หมอชิต - เมื่อวาน (17 พ.ย.) รัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวใหญ่โตเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และการเจรจาการค้าไทยกับต่างประเทศ
ประเด็นหลัก ๆ มีการแจกแจงข้อมูลเกี่ยวกับการระงับปฏิญญาร่วมไทย-กัมพูชา หรือ Joint Declaration เนื่องจากกัมพูชาละเมิดปฏิญญาร่วมด้วยการวางทุ่นระเบิดใหม่อย่างชัดเจน รวมถึงละเมิดปฏิญญาร่วมข้อที่ 4 ซึ่งระบุว่า "ทั้ง 2 ฝ่าย ยืนยันความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งเขตแดนด้วยวิธีสันติและตามกฎหมายระหว่างประเทศ โดยละเว้นการเป็นภัยคุกคาม หรือ การใช้กำลัง หรือ การดำเนินการยั่วยุใด ๆ"
โดยหลักฐานที่ชัดเจนมีทั้งภาพถ่ายกำลังพลกัมพูชาถือทุ่นระเบิด PMN-2 การตรวจพบทุ่นระเบิดใหม่หลังเหตุปะทะบริเวณภูมะเขือ รวมถึงการพบทุ่นระเบิดที่ถูกวางเป็นกลุ่มก้อนหวังเอาชีวิต
และเจ้าหน้าที่ยังพบคลิปวิดีโอการเคลื่อนย้ายทุ่นระเบิด 72B ซึ่งเป็นหลักฐานเพิ่มเติมที่ได้มาจากการตรวจยึดโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ตกอยู่ในพื้นที่หลังมีการปะทะ และมีการนำไปตรวจพิสูจน์กับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์
ขณะที่ กระทรวงการต่างประเทศ ได้มีการโทรศัพท์ติดต่อไปยัง "รองนายกฯ และ รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา" เพื่อประท้วงในเหตุการณ์ต่าง ๆ และได้ส่งหนังสือประท้วงเพิ่มเติมอีก 2 ฉบับ พร้อมเดินหน้าเชิงรุกเพื่อสื่อสารกับประชาคมโลก โดยเฉพาะการส่งหนังสือประท้วงต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งใจความสำคัญ คือ การชี้ให้เห็นถึงการละเมิดอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนของไทยโดยกัมพูชา
ส่วนข้อกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการค้าโดยเฉพาะเรื่องภาษีสหรัฐฯ ซึ่งก่อนหน้านี้มีคำยืนยันจากสหรัฐฯ ว่าจะแยกเรื่องสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับเรื่องการค้าออกจากกัน และตอนนี้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ยืนยันว่าทุกอย่างกำลังเดินหน้าต่อเนื่อง คาดว่าการเจรจาจะแล้วเสร็จในสิ้นปีนี้
ขณะที่สิ่งที่ต้องจับตามองหลังจากนี้ คือ แนวทางเรื่องปฏิญญาร่วมไทย-กัมพูชา ซึ่งฝ่ายความมั่นคงได้วางกรอบดำเนินการใหม่ แบ่งเป็น 6 ประเด็นหลัก ๆ คือ
1.ระงับแผนการถอนกำลังที่เคยกำหนดไว้ว่าจะเสร็จภายใน 2 เดือน
2.เดินหน้าเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ของไทย โดยไม่คำนึงถึงความเห็นของกัมพูชา
3.เดินหน้าบริหารจัดการพื้นที่บ้านหนองจาน และ หนองหญ้าแก้ว
4.ปราบปรามสแกมเมอร์ต่อเนื่อง ทั้งระดับทวิภาคี และพหุภาคี
5.การปล่อย 18 เชลยศึกเป็นสิ่งสุดท้าย หลังจากความเป็นปฏิปักษ์ของกัมพูชาหมดสิ้นไป
6.ใช้แนวทางสันติวิธีในการปฏิบัติ แต่สงวนสิทธิ์ในการตอบโต้หากถูกยั่วยุ