สาวร้องสื่อส่งรถหรูซ่อมอู่ 9 เดือนยังไม่เสร็จ อ้างรออะไหล่ เห็นสภาพแล้วใจหาย แถมโดนเชิดเงินส่วนต่างไปอีกแสนกว่าบาท
วันนี้ (18 พ.ย.67) นางสาวจินตนา นำหลักฐานร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว กรณีนำรถเบนซ์ C250 สีบรอนซ์เทา ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ที่ประสบอุบัติเหตุส่งซ่อมที่อู่ซ่อมรถชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ แต่ผ่านมา 9 เดือนก็ยังไม่เสร็จ เห็นสภาพรถแล้วใจหาย ติดตามสอบถามมาเป็นสิบครั้งทางอู่ก็ยังบอกไม่ได้ว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ ทำให้เดือดร้อนหนัก
โดยเล่าว่า เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 เธอและครอบครัวขับรถไปทำบุญและถูกรถคู่กรณีพุ่งข้ามเลนมาชนจนรถได้รับความเสียหาย หลังจากนั้นได้ใช้สิทธิเคลมประกันชั้น 2 ที่ทำไว้ ตัวแทนบริษัทประกันแนะนำให้นำรถส่งซ่อมที่อู่ซ่อมรถแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.สารภี จ.เชียงใหม่ โดยระบุว่าเป็นอู่ที่มีคุณภาพและซ่อมรถยุโรปโดยตรง โดยทางอู่ได้ประเมินราคาออกมาว่าหากส่งซ่อมศูนย์เบนซ์จะมีค่าใช่จ่ายประมาณ 1.6 ล้านบาท แต่หากซ่อมที่อู่จะมีค่าใช่จ่ายรวมที่ประมาณ 5 แสนบาท อยู่ที่วงเงินประกันคุ้มครองแบบเหมาจ่าย โดยบอกว่าจะสั่งอะไหล่แท้ถอดของรุ่นเดียวกันจากญี่ปุ่นมาเปลี่ยนให้ เธอจึงตกลงซ่อม
ต่อมา บริษัทประกันได้สั่งจ่ายเช็กค่าซ่อมผ่านอู่มาให้ 500,000 บาท และเธอได้ไปธนาคารเพื่อเบิกเงินและได้โอนเงินจำนวนนี้เข้าบัญชีเจ้าของอู่เต็มจำนวนไปเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568
นอกจากนี้ยังได้โอนเงินไปอีก 109,676 บาท เข้าบัญชี นายตั้ม ตัวแทนของอู่ เป็นค่าส่วนต่างถุงลมนิรภัยที่เธอต้องการใช้ของมือสองโดยตรงจากศูนย์เพื่อความปลอดภัย โดยโอนไปให้เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2568
หลังจากโอนเงินไปให้ทั้งหมดแล้ว ผ่านไป 2-3 เดือน ก็พบว่างานซ่อมยังไม่มีความคืบหน้า สอบถามไปหลายครั้งก็อ้างว่ารออะไหล่ จนกระทั่งกลางเดือนกรกฏาคม 2568 มีคนเห็นว่าทางอู่นำรถของเธอขึ้นรถสไลด์เตรียมเคลื่อนย้ายออกไปจากอู่ โดยที่ไม่ได้แจ้งให้เธอทราบ จึงรีบโทรสอบถามเพราะกลัวรถหาย ทำให้ทราบว่าทางอู่มีปัญหาทุจริตภายในทำให้ต้องเคลื่อนย้ายรถออกไปซ่อมอีกสาขาหนึ่งใน อ.เมืองเชียงใหม่ โดยเจ้าของอู่บอกว่าหากจะให้ซ่อมต่อจะรับผิดชอบซ่อมให้ตามเหมาจ่าย 500,000 บาทที่ได้ตกลงกันไว้ แต่หากจะเปลี่ยนไปซ่อมที่อู่อื่นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นค่าประเมินและค่ารื้อที่ทำไปก่อนหน้านี้ พร้อมจะให้ช่างจากศูนย์เบนซ์มาตรวจการันตีให้หลังซ่อมเสร็จ เธอจึงยอมตกลงอีกครั้ง
หลังจากนั้นจนถึงวันนี้ก็พบว่ารถยังซ่อมไม่เสร็จ ล่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาไปดูก็อยู่ในสภาพที่ถูกรื้อฝุ่นจับเต็มรถ แถมที่ไฟท้ายที่ไม่ได้เสียหายจากอุบัติเหตุยังมีร่องรอยเสียหาย เมื่อสอบถามไปก็ได้รับคำตอบว่ารออะไหล่
เมื่อเห็นว่าเวลาผ่านมานานเกินสมควรและได้สอบถามไปแล้วหลายครั้ง ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2568 จึงให้ทนายความทำหนังสือติดตามทวงถามการซ่อมแซมรถรวมทั้งกำหนดแล้วเสร็จและส่งมอบรถ โดยทางอู่ได้ตอบเป็นหนังสือกลับมาว่ามีอะไหล่บางตัวที่สั่งไปแล้วและส่งมาผิดรุ่น ทำให้ต้องส่งกลับคืนและรอให้ส่งมาใหม่ เช่น ชุดหลังคาซันรูฟที่ต้องส่งกลับไปกลับมาแล้ว 3 รอบ หากได้อะไหล่ตรงรุ่นจะนำมาประกอบและทดลองขับ โดยล่าสุดในส่วนตัวรถสามารถขับได้ปกติแล้ว
ส่วนการติดตามทวงถามเงินส่วนต่าง 109,676 บาท ที่ได้โอนเข้าบัญชีนายตั้ม ทางอู่ไม่สามารถรับผิดชอบให้ได้ เนื่องจากเป็นข้อตกลงที่อยู่นอกเหนือจากการเหมาซ่อม 500,000 บาท และ เป็นการโอนเงินให้กับบุคคลภายนอก ไม่ใช่บัญชีเจ้าของอู่ โดยความเสียหายที่เกิดขึ้นสามารถนำเรื่องไปฟ้องเรียกร้องเอากับนายตั้มได้โดยตรง
นางสาวจินตนา บอกว่า ที่ตัดสินใจส่งซ่อมอู่นี้เพราะเห็นว่าเป็นอู่กลางและมั่นใจในบริษัทประกันภัย เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นก็อยากขอให้ทางอู่รับผิดชอบ ทั้งในเรื่องการซ่อมแซมที่ล่าช้าและเงินส่วนต่างที่ต้องจ่ายไป ไม่ควรปัดความรับผิดชอบ อยากให้คิดถึงใจเขาใจเราว่าจะรู้สึกอย่างไร โดยหลังจากนี้จะนำเรื่องร้องเรียน คปภ.ให้ถอดรายชื่อออกจากอู่กลาง