เปิดใจ 2 ตำรวจฮีโร ช่วยนักเรียนคิดสั้น ลั่น ภูมิใจได้ช่วยชีวิตคน ในวันที่เขามองไม่เห็นทางออก

เปิดใจ 2 ตำรวจฮีโร ช่วยนักเรียนคิดสั้น ลั่น ภูมิใจได้ช่วยชีวิตคน ในวันที่เขามองไม่เห็นทางออก

View icon 199
วันที่ 18 พ.ย. 2568 | 18.41 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
18 พ.ย. 68 ที่สภ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผู้กำกับการ สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้เรียก ด.ต.อิศรา สมัครรบ และ ส.ต.ต.ธนชัย เทียนทอง สองตำรวจสายตรวจที่เข้าช่วยเหลือเด็กชายวัย 15 ปี จากเหตุคิดสั้นบนสะพาน บริเวณแยกประตูชัย ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อแสดงความชื่นชมเป็นการพิเศษ

(อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ตำรวจฮีโรช่วย เกลี้ยกล่อมนักเรียนคิดสั้น นาทีเป็นนาทีตาย)

โดย พ.ต.อ.อาทิตย์ เผยว่า ทั้งสองนายปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญ มีสติ และทุ่มเทอย่างสุดความสามารถ คือแบบอย่างของตำรวจที่ดี ที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง และใช้ความอ่อนโยนเกลี้ยกล่อมจนเด็กปลอดภัย “ผมภูมิใจในลูกน้องทั้งสอง พวกเขาทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมและช่วยชีวิตคนๆ หนึ่งไว้ได้” ผู้กำกับกล่าว

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย เล่าว่า ระหว่างออกตรวจพื้นที่ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา ได้รับแจ้งว่ามีนักเรียนชายมีอาการเครียดอย่างหนักและกำลังจะกระโดดสะพาน เมื่อไปถึงพบเด็กกำลังร้องไห้ พิงราวสะพาน และมีเพื่อนคอยปลอบอยู่ใกล้ ๆ

ส.ต.ต.ธนชัย จึงค่อย ๆ พูดคุยสอบถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ส่วน ด.ต.อิศราก็คอยดูแลความปลอดภัยรอบด้าน ทั้งสองช่วยกันใช้ “ยุทธวิธีการสื่อสารเชิงจิตวิทยา” เพื่อให้น้องคลายความกังวล เด็กเผยว่ามีความเครียดสะสมจากปัญหาครอบครัวและความไม่เข้าใจกับเพื่อนร่วมโรงเรียน

หลังพูดคุยอยู่พักใหญ่ เด็กเริ่มใจเย็นลง ส.ต.ต.ธนชัย จึงเข้าไปสวมกอดเพื่อให้กำลังใจและบอกว่าทุกอย่างยังแก้ไขได้ ก่อนประสานแม่และครูให้มารับตัวต่อ ทั้งสองนายยอมรับว่า รู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยชีวิตคนในวันที่เขามองไม่เห็นทางออก “เราเป็นตำรวจ ก็ต้องช่วยประชาชนในยามทุกข์ นั่นคือหน้าที่สำคัญที่สุด” ทั้งคู่กล่าวตรงกัน

ด้านแม่ของเด็กให้ข้อมูลทางโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและพลเมืองดี ลูกชายคงไม่ยืนอยู่ตรงนี้ ขอบคุณทุกคนที่ไม่ปล่อยผ่าน และช่วยให้ฉันได้กอดลูกอีกครั้ง”

เธอเล่าว่า ลูกมีความเครียดทั้งเรื่องครอบครัวที่เพิ่งแตกแยก และปัญหาเล็ก ๆ ในโรงเรียนที่สะสมจนหนักเกินรับไหว

ในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของโรงเรียนได้ลงพื้นที่พูดคุยกับครอบครัว และกำชับให้ครูดูแลเด็กเป็นพิเศษ ปัจจุบันเด็กมีสภาพจิตใจดีขึ้นและสามารถกลับไปเรียนได้ตามปกติแล้ว